ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นักเทคนิคการแพทย์: ผู้เชี่ยวชาญเบื้องหลังสุขภาพที่คุณวางใจ

 นักเทคนิคการแพทย์: ผู้เชี่ยวชาญเบื้องหลังสุขภาพที่คุณวางใจ

นักเทคนิคการแพทย์ (Medical Technologist) เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการหรือห้องแล็บของโรงพยาบาล โดยมีหน้าที่สำคัญในการตรวจวิเคราะห์สิ่งส่งตรวจจากคนไข้ เช่น เลือด ปัสสาวะ และน้ำไขสันหลัง ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ผลการตรวจเหล่านี้ช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรค ประเมินสุขภาพ และคาดการณ์ความรุนแรงของโรคได้อย่างแม่นยำ

ความสำคัญของผลการตรวจทางเทคนิคการแพทย์

ผลการตรวจจากนักเทคนิคการแพทย์มีบทบาทสำคัญต่อการดูแลรักษาผู้ป่วย ตัวอย่างเช่น:

  • การตรวจสารเคมีในเลือด
    เช่น ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยวินิจฉัยและประเมินความเสี่ยง เช่น น้ำตาลในเลือดสูงเสี่ยงโรคเบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูงเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • การตรวจเม็ดเลือด
    เช่น เม็ดเลือดแดงและขาว รวมถึงชนิดของฮีโมโกลบิน ช่วยวินิจฉัยโรคโลหิตจาง ทาลัสซีเมีย หรือภาวะ G6PD
  • การตรวจเชื้อไวรัส
    เช่น การตรวจหาเชื้อ HIV หรือไวรัสตับอักเสบ และเชื้อโควิด
  • การตรวจเชื้อแบคทีเรีย
    เช่น การตรวจชนิดของเชื้อในกระแสเลือดหรือเชื้อวัณโรคในเสมหะ

ก่อนที่แพทย์จะวินิจฉัยโรคหรือเลือกวิธีรักษา ผลการตรวจที่ได้จากนักเทคนิคการแพทย์จึงเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ


เส้นทางสู่อาชีพนักเทคนิคการแพทย์

หากน้อง ๆ สนใจอาชีพนี้ ควรเริ่มต้นจากการเลือกเรียนสาขาเทคนิคการแพทย์ ซึ่งเปิดสอนในหลายสถาบัน โดยแต่ละแห่งอาจจัดอยู่ในคณะสหเวชศาสตร์หรือคณะเทคนิคการแพทย์ หลังจากนั้นศึกษาเงื่อนไขการสมัคร เช่น การสอบตรงหรือระบบรับสมัครกลาง


สิ่งที่ได้เรียนในสาขาเทคนิคการแพทย์

  • ปี 1-2: เรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เช่น เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่วิชาชีพ
  • ปี 3-4: เรียนวิชาเฉพาะด้าน เช่น
    • โลหิตวิทยา (Hematology)
    • เคมีคลินิก (Clinical Chemistry)
    • ภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunology)
    • ตรวจสารน้ำในร่างกาย (Body Fluids)
    • ธนาคารเลือด (Blood Bank)
    • แบคทีเรียวิทยา (Clinical Bacteriology)
    • ปรสิตวิทยา (Clinical Parasitology)
    • ไวรัสวิทยา (Virology)
      พร้อมฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การทำงานจริง

โอกาสการทำงานหลังเรียนจบ

นักเทคนิคการแพทย์ยังเป็นที่ต้องการในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต โดยสามารถทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น:

  1. งานในห้องปฏิบัติการโรงพยาบาล
    • โรงพยาบาลรัฐ: เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 15,000 บาท พร้อมค่าใบประกอบวิชาชีพ
    • โรงพยาบาลเอกชน: ฐานเงินเดือนสูงขึ้นเล็กน้อย
  2. งานในบริษัทเอกชน
    • พนักงานขายเครื่องมือแพทย์
    • ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ (Product Specialist)
  3. งานวิจัยและพัฒนา
    ทำงานในห้องปฏิบัติการวิจัยเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ

บทบาทสำคัญที่คุณอาจไม่เคยรู้

นักเทคนิคการแพทย์ทำหน้าที่เบื้องหลังที่มีผลกระทบอย่างมากต่อการรักษาพยาบาล การพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีในวงการนี้ต้องอาศัยการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง ทั้งในด้านการปฏิบัติการและการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ เพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจบทบาทของนักเทคนิคการแพทย์มากขึ้น และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้น้อง ๆ ที่สนใจเลือกอาชีพนี้ในอนาคต

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลอดใส่เลือดมี่กี่ชนิด (tube เลือดมี่กี่ชนิด)

        หลาย ๆ ท่านอาจสงสัยนะครับว่าเวลามีนัดต้องไปพบแพทย์ และเมื่อถึงเวลาเจาะเลือด ทำไมถึงต้องเก็บเลือดเราไปทีละหลาย ๆ หลอดและในการนัดแต่ละครั้งก็มีการเจาะเลือดไปไม่เหมือนเดิมกับครั้งก่อน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันครับว่าหลอดใส่เลือดแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร         ปัจจุบันในทางการแพทย์หลอดสำหรับเก็บตัวอย่างเลือดนั้นถูกพัฒนามาหลายรูปแบบด้วยกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพสำหรับตรวจทางห้องปฏิบัติการรวมถึงระยะในการเก็บรักษาตัวอย่างเลือดให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์ของการตรวจทางห้องปฏิบัติการครับ สำหรับในวันนี้จะพามาทำความรู้จักกับหลอดเลือดพื้นฐานที่ใช้ในการตรวจประจำของโรงพยาบาลโดยทั่วไปครับ  สิ่งที่อยู่ในหลอดเลือดแต่ละสี        สิ่งที่อยู่ข้างในหลอดเลือดสีต่าง ๆ คือ สารเคมีที่ป้องกันการแข็งตัวของเลือด (สารกันเลือดแข็ง) โดยในหลอดแต่ละสีก็จะมีสารกันเลือดแข็งคนละชนิดกันครับ ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้สารกันเลือดแข็งหลายชนิด ไม่สามารถใช้ชนิดเดียว หรือหลอดเดียวสำหรับารตรวจได้ทั้งหมดก็เพราะว่าส...

DNA ตอนที่ 1 : DNA คืออะไร และโครงสร้างของ DNA

สารพันธุกรรม (genetic materials) ห มายถึงสารที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งสิ่งมีชีวิตระดับโปรคาริโอต (prokaryote) และยูคาริโอต (eukaryote) โดยสารพันธุกรรมประกอบด้วย ดีเอ็นเอ (deoxyribonucleic acid หรือ DNA) และอาร์เอ็นเอ (ribonucleic acid หรือ RNA) การเก็บรักษาข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเกิดจากการเรียงลำดับของหน่อยย่อยที่สุดของ DNA และ RNA อย่างเป็นระเบียบและมีความหมาย ซึ่งหน่อยย่อยของดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอเราเรียกว่า นิวคลีโอไทด์ (nucleotide) สิ่งมีชีวิตจะทำการแปลรหัสข้อมูลนิวคลีโอไทด์เหล่านี้ออกมาเป็นโปรตีนเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ ของเซลล์หรือร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่อไปผ่านการทำงานร่วมกันตั้งแต่ DNA RNA ไปจนถึงขั้นตอนการสั่งเคราะห์โปรตีน อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตบางประเภทจะเก็บข้อมูลพื้นฐานของตัวเองในรูปแบบของ RNA เท่านั้น เช่นไวรัสในกลุ่มรีโทรไวรัส หรือที่เรารู้จักกันดีก็คือไวรัสโควิด ภาพที่ 1 แสดงโครงสร้างจำลองของ DNA ที่มาภาพ : http://becuo.com/red-dna-wallpaper   DNA (deoxyribonucleic acid )                  D...

ความแตกต่างระหว่าง Leukemoid Reaction และ Chronic myeloid leukemia (CML)

***แก้ไขหน่วยในภาพ cell/ml เป็น cell/ul Leukemoid Reaction (LR) คือ ภาวะหนึ่งที่ร่างกายมีการสร้างเม็ดเลือดขาวออกมาในปริมาณมาก (>50,000 cell/ul) เพื่อตอบสนองต่อ ภาวะความผิดปกติบางอย่าง เช่นภาวะการติดเชื้ออย่างรุนแรง (severe infection)  เม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้นผิดปกติจำนวนมากจะเป็น mature cells  แต่ก็อาจพบเม็ดเลือดขาวระยะตัวอ่อนได้บ้างซึ่งการที่เราพบเม็ดเลือดตัวอ่อนในเลือดจะเรียกว่า Shift to the left  โดยเมื่อส่องดูเสมียร์เลือด (blood smear) ด้วยกล้องจุลทรรศน์แล้วจะพบว่ามีลักษณะที่คล้ายกับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Chronic myeloid leukemia (CML) แต่ก็มีลักษณะที่สามารถทำให้แยกออกจากกันได้ครับโดยการวินิจฉัย LR นั้นจะเป็น exclusion criteria ของมะเร็งเม็ดเลือดขาว CML เช่น ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง เกร็ดเลือด และชนิดของเม็ดเลือดขาวตัวเต็มวัย หรือการเพิ่มขึ้นของค่า  Leukocyte alkaline phosphatase (LAP)  ใน LR Chronic myeloid leukemia (CML) เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวในสาย myeloid ชนิดเรื้องรัง โดยผู้ป่วย CML ส่วนใหญ่มีสาเหตุการเกิดโรคมาจากการกลายพั...