ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ ความรู้ทางการแพทย์

ทำความรู้จักอาการบ้านหมุน

อาการบ้านหมุน (Vertigo) " ทำความรู้จักอาการบ้านหมุน: สาเหตุ อาการ และแนวทางการรักษา" อาการบ้านหมุน (Vertigo) เป็นอาการเวียนศีรษะที่ทำให้รู้สึกเหมือนสิ่งรอบตัวกำลังหมุนหรือเคลื่อนที่ ทั้งที่ความจริงแล้วยังอยู่กับที่ อาการนี้มักทำให้เสียสมดุล เดินลำบาก และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือหูอื้อ อาการบ้านหมุนไม่ใช่โรคแต่เป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของระบบการทรงตัวในหูชั้นในหรือระบบประสาท สาเหตุของอาการบ้านหมุน อาการบ้านหมุนเกิดจากหลายปัจจัย โดยสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่: โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด (BPPV - Benign Paroxysmal Positional Vertigo) เกิดจากผลึกแคลเซียมในหูชั้นในเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะเมื่อเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว เช่น ล้มตัวลงนอนหรือเงยหน้า โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s Disease) มีของเหลวสะสมในหูชั้นในมากผิดปกติ ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะรุนแรง หูอื้อ และสูญเสียการได้ยินเป็นระยะ อาการอักเสบของเส้นประสาทหูชั้นใน (Vestibular Neuritis/Labyrinthitis) มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ทำให้เส้นประสาทควบคุมสมดุลอักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีร...

Digital PCR และหลักการตรวจ NIPT

  Digital PCR และหลักการตรวจ NIPT Digital PCR (dPCR) เป็นเทคนิคที่พัฒนามาจาก Polymerase Chain Reaction (PCR) แบบดั้งเดิม โดยมีความสามารถในการตรวจจับและวัดปริมาณกรดนิวคลีอิก (DNA หรือ RNA) ได้อย่างแม่นยำและละเอียดกว่าการทำ quantitative PCR (qPCR) เทคนิคนี้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ตัวอย่างที่มีปริมาณน้อย หรือมีเป้าหมายที่ต้องการวัดอยู่ในระดับต่ำมาก หนึ่งในการประยุกต์ใช้ที่สำคัญของ dPCR คือการตรวจคัดกรองความผิดปกติของทารกในครรภ์แบบไม่รุกล้ำ หรือ Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT) หลักการทำงานของ Digital PCR Digital PCR มีหลักการทำงานโดยการแบ่งตัวอย่าง DNA หรือ cDNA ออกเป็นจำนวนมากของไมโครรีแอคชัน (microreaction) หรือดรอปเล็ต (droplet) แต่ละรีแอคชันจะทำปฏิกิริยา PCR แยกจากกันเป็นอิสระ และมีเพียง DNA เป้าหมายเดียวในแต่ละรีแอคชัน ผลลัพธ์จะถูกวิเคราะห์แบบไบนารี (Binary Analysis) คือ มีสัญญาณ (positive) หรือไม่มีสัญญาณ (negative) จากนั้นใช้สถิติ Poisson ในการคำนวณปริมาณของ DNA เป้าหมายที่แท้จริง หลักการตรวจ NIPT ด้วย Digital PCR NIPT อาศัยการตรวจสอบเซลล์ฟรี DNA (cfDNA) ที่อยู่ในกระแสเลือดข...

คำแนะนำการตรวจ Tumor Marker ในเลือด

คำแนะนำการตรวจ Tumor Marker ในเลือด Tumor markers เป็นสารชีวโมเลกุลที่สามารถตรวจพบได้ในเลือด ปัสสาวะ หรือเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยมักถูกผลิตขึ้นโดยเซลล์มะเร็งหรือเซลล์ปกติที่มีการตอบสนองต่อมะเร็ง การตรวจ tumor markers ในเลือดเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยในการคัดกรอง ติดตาม และวินิจฉัยโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ค่าของ tumor markers อาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น เช่น ภาวะอักเสบ โรคเรื้อรัง และปัจจัยทางพันธุกรรม ดังนั้น การแปลผลต้องทำอย่างระมัดระวังร่วมกับข้อมูลทางคลินิกอื่น ๆ ประเภทของ Tumor Markers ที่นิยมตรวจในเลือด Alpha-fetoprotein (AFP) ใช้ในการตรวจหามะเร็งตับ (Hepatocellular carcinoma) สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้มะเร็งของอัณฑะและรังไข่ ค่า AFP สูงอาจเกิดจากภาวะอื่น เช่น ตับแข็งและไวรัสตับอักเสบ Carcinoembryonic Antigen (CEA) ใช้ติดตามมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก สามารถเพิ่มขึ้นในมะเร็งตับอ่อน มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านม ระดับ CEA อาจสูงขึ้นในผู้สูบบุหรี่หรือผู้ที่มีภาวะอักเสบเรื้อรัง Prostate-Specific Antigen (PSA) ใช้คัดกรองและติดตามมะเร็งต่อมลูกหมาก ค่า PSA อาจสูงขึ้นจากภาวะอ...

สเต็มเซลล์กับการรักษาทางการแพทย์

  สเต็มเซลล์กับการรักษาทางการแพทย์ ความหมายของสเต็มเซลล์ สเต็มเซลล์ (Stem Cells) หรือ "เซลล์ต้นกำเนิด" เป็นเซลล์ที่มีความสามารถพิเศษในการแบ่งตัวและพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายได้ ซึ่งมีศักยภาพในการนำมาใช้เพื่อซ่อมแซมหรือทดแทนเซลล์ที่เสียหายจากโรคหรือการบาดเจ็บ ประเภทของสเต็มเซลล์ สเต็มเซลล์สามารถจำแนกออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้: สเต็มเซลล์จากตัวอ่อน (Embryonic Stem Cells - ESCs, เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน) ได้มาจากตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย มีศักยภาพสูงในการใช้รักษาโรค แต่อาจมีปัญหาด้านจริยธรรม สเต็มเซลล์จากตัวเต็มวัย (Adult Stem Cells - ASCs, เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวเต็มวัย) พบได้ในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ไขกระดูก ผิวหนัง และไขมัน มีข้อจำกัดในการพัฒนาไปเป็นเซลล์บางประเภท ใช้รักษาโรคเลือด เช่น ลูคีเมีย และภาวะไขกระดูกฝ่อ สเต็มเซลล์มีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cells - MSCs, เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์) พบได้ในไขกระดูก ไขมัน และเนื้อเยื่อของสายสะดือ สามารถพัฒนาเป็นเซลล์กระดูก กระดูกอ่อน และไขมัน ใช้ในการรักษาโรคข้ออักเสบ ...

ไข้หวัดใหญ่: โรคติดต่อทางเดินหายใจที่ควรรู้

ไข้หวัดใหญ่: โรคติดต่อทางเดินหายใจที่ควรรู้ ความหมายของไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ ไวรัสชนิดนี้สามารถก่อให้เกิดอาการตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตในบางกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัว ชนิดของไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่สามารถจำแนกออกเป็น 4 ชนิดหลัก ได้แก่: ไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (Influenza A) - เป็นชนิดที่พบมากที่สุดและสามารถก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ได้ ไวรัสชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์ เช่น H1N1, H3N2 เป็นต้น ไข้หวัดใหญ่ชนิดบี (Influenza B) - พบการระบาดในมนุษย์และสามารถก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้ แต่ไม่แพร่ระบาดมากเท่าชนิด A ไข้หวัดใหญ่ชนิดซี (Influenza C) - มีอาการไม่รุนแรง มักไม่ก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่ชนิดดี (Influenza D) - พบในสัตว์ เช่น วัว แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดโรคในมนุษย์ อาการของไข้หวัดใหญ่ อาการของไข้หวัดใหญ่มักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าไข้หวัดธ...

การแปลผลตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count - CBC)

การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count - CBC) เป็นหนึ่งในการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นพื้นฐานการตรวจเลยทีเดียว โดยจะถูกนำมาใช้เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวม คัดกรองภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อ และโรคเกี่ยวกับเลือดอื่น ๆ การแปลผล CBC อย่างถูกต้องช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและติดตามอาการของโรคได้อย่างแม่นยำ ในบทความนี้ เราจะอธิบายองค์ประกอบหลักของ CBC และความหมายของค่าที่ตรวจพบ องค์ประกอบหลักของการตรวจ CBC และการแปลผล การตรวจ CBC ประกอบด้วยค่าพื้นฐานหลักที่สำคัญ ได้แก่ 1. เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cells - RBCs) เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ค่าที่สำคัญที่ใช้ประเมินเม็ดเลือดแดง ได้แก่: ปริมาณของเม็ดเลือดแดง (RBC count): ค่าปกติในเพศชายประมาณ 4.7-6.1 ล้านเซลล์/ไมโครลิตร และในเพศหญิง 4.2-5.4 ล้านเซลล์/ไมโครลิตร ค่าที่ต่ำอาจบ่งบอกถึงภาวะโลหิตจาง ในขณะที่ค่าที่สูงอาจสัมพันธ์กับภาวะขาดน้ำหรือโรคไขกระดูก ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin - Hgb): เป็นโปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน ค่าในเพศชายปกติอยู่ที่ 13.8-17.2 g/dL และใน...

โรคดาวน์ซินโดรมคืออะไร?

โรคดาวน์ซินโดรม: ความเข้าใจในทุกมิติ โรคดาวน์ซินโดรม (Down syndrome) เป็นหนึ่งในภาวะทางพันธุกรรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวในหลายมิติ ดาวน์ซินโดรมเกิดจากการมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ซึ่งทำให้จำนวนโครโมโซมทั้งหมดกลายเป็น 47 แท่งแทนที่จะเป็น 46 แท่ง ความผิดปกตินี้ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โรคนี้เป็นภาวะที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มความผิดปกติของโครโมโซม และมีอุบัติการณ์ประมาณ 1 ใน 700 ของทารกแรกเกิด นั่นหมายความว่า ในทุก ๆ ปีจะมีเด็กที่เกิดมาพร้อมภาวะนี้จำนวนไม่น้อย ซึ่งทำให้ความเข้าใจและการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจทุกแง่มุมของโรคดาวน์ซินโดรม ตั้งแต่สาเหตุ อาการ ไปจนถึงแนวทางการดูแลและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณค่าและมีความสุข สาเหตุและพันธุกรรม โรคดาวน์ซินโดรมเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่: Trisomy 21 (พบ 95% ของผู้ป่วย) – เกิดจากการมีโครโมโซม 21 เกินมาท...

Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT) คืออะไร?

NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing): ทางเลือกที่ปลอดภัยและแม่นยำสำหรับหญิงตั้งครรภ์ การตรวจคัดกรองก่อนคลอดบุตรมีความสำคัญอย่างมากในการดูแลสุขภาพของทารกในครรภ์ และ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) เป็นหนึ่งในวิธีที่ทันสมัยและมีความแม่นยำสูงมากและได้รับความนิยมในการตรวจคัดกรองปัจจุบัน โดยสามารถช่วยระบุความผิดปกติของโครโมโซมของทารกได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้ทำให้เกิดอันตราย (invasive) เหมือนกับการการตรวจแบบดั้งเดิม เช่น การเจาะน้ำคร่ำ (amniocentesis) หรือการตรวจชิ้นเนื้อรก (CVS, chorionic villus sampling)  หลักการทำงานของ NIPT เป็นการวิเคราะห์ DNA ของทารกที่ปนเปื้อนอยู่ในกระแสเลือดของมารดา (cell-free fetal DNA หรือ cfDNA) โดยใช้เทคนิคการตรวจวิเคราะห์ทางพันธุกรรมที่มีความแม่นยำสูง เช่น การหาลำดับเบสของ DNA (Next-Generation Sequencing; NGS) หรือการใช้เทคนิค PCR (Polymerase Chain Reaction) เพื่อวิเคราะห์โครโมโซมของทารก หากมีความผิดปกติ เช่น โครโมโซมเกินหรือขาด ระบบสามารถตรวจจับได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ความผิดปกติที่สามารถตรวจพบได้ กลุ่มอาการดาวน์ (Trisomy 21) กลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ดส์ (T...

เซลล์ต้นกำนิดตัวอ่อน (Pluripotent Stem Cells; iPSCs) ที่สร้างขึ้นจากเซลล์ร่างกายของเรา

ความหมายและจุดเริ่มต้นของ IPSCs iPSCs หรือ Induced Pluripotent Stem Cells คือเซลล์ต้นกำเนิดที่ถูกสร้างขึ้นจากเซลล์ร่างกายผู้ใหญ่ เช่น เซลล์ผิวหนังหรือเซลล์เม็ดเลือด โดยการโปรแกรมใหม่ให้กลับไปอยู่ในสถานะพลูริโพเทนต์ ซึ่งหมายความว่าเซลล์เหล่านี้สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ประเภทต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ได้อย่างไม่จำกัด. การค้นพบ iPSCs เกิดขึ้นในปี 2006 โดย Shinya Yamanaka ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลในปี 2012 สำหรับการค้นพบนี้ การประยุกต์ใช้ iPSCs มีการใช้งานที่หลากหลายทั้งในด้านการวิจัยและการแพทย์ รวมถึง: • การสร้างแบบจำลองโรค: iPSCs สามารถสร้างแบบจำลองสำหรับโรคต่าง ๆ เช่น อัลไซเมอร์และพาร์กินสัน โดยสามารถแยกความแตกต่างเป็นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับโรค • การค้นพบยา: ใช้ในการทดสอบสารประกอบเพื่อค้นหาความสามารถในการรักษาโรค ลดความจำเป็นในการทดลองกับสัตว์ • การบำบัดด้วยเซลล์: iPSCs สามารถใช้ในการสร้างเซลล์ที่แข็งแรงเพื่อทดแทนเนื้อเยื่อที่เสียหายจากโรค เช่น โรคหัวใจและเบาหวาน ขั้นตอนการทำ การสร้าง iPSCs เกิดขึ้นผ่านกระบวนการที่เรียกว่า reprogramming ซึ่งรวมถึง: 1. การแนะนำยีนเฉพาะ: ใช้เทคนิคทางพั...

การตรวจฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด และการแปลผล

การตรวจฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด ฮอร์โมนไทรอยด์คือฮอร์โมนที่ผลิตโดยต่อมไทรอยด์ ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณลำคอของเรา มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ โดยฮอร์โมนหลักที่ถูกผลิตออกมาได้แก่ Triiodothyronine (T3) และ Thyroxine (T4) ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมการเติบโต การพัฒนาของร่างกาย รวมถึงการรักษาอุณหภูมิของร่างกายและระดับไขมันในเลือด นอกจาก T3 และ T4 แล้ว Thyroid Stimulating Hormone (TSH) ซึ่งถูกผลิตโดยต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) มีหน้าที่กระตุ้นการผลิตและหลั่งฮอร์โมน T3 และ T4 จากต่อมไทรอยด์ การวัดระดับ TSH เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินการทำงานของต่อมไทรอยด์ เนื่องจาก TSH จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกาย หน้าที่ของฮอร์โมนไทรอยด์ 1. ควบคุมการเผาผลาญ: ฮอร์โมน T3 และ T4 ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในเซลล์ ทำให้ร่างกายสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ. 2. ส่งเสริมการเจริญเติบโต: ฮอร์โมนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย โดยเฉพาะในเด็ก. 3. ควบคุมอุณหภูมิ: ฮอร์โมนไทรอยด์ช่วยในการรักษา...

โพแทสเซียมในเลือดสำคัญอย่างไร และการแปลผลเลือด

โพแทสเซียมในเลือดสำคัญอย่างไร และการแปลผล โพแทสเซียม (Potassium) เป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงการรักษาสมดุลของของเหลวในเซลล์และระบบไหลเวียนเลือดเรา ดังนั้นระดับโพแทสเซียมที่เหมาะสมในเลือดจึงมีความสำคัญอย่างมากกับร่างกายของเรา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับโพแทสเซียมสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงได้ครับ บทบาทสำคัญของโพแทสเซียมในร่างกาย การส่งสัญญาณประสาท โพแทสเซียมมีบทบาทในการช่วยส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาท ทำให้ระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การควบคุมการเคลื่อนไหว การตอบสนองต่อสิ่งเร้า และการทำงานของสมอง การทำงานของกล้ามเนื้อ ระดับโพแทสเซียมที่เหมาะสมช่วยให้กล้ามเนื้อหดตัวและคลายตัวได้อย่างปกติ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจที่ต้องการโพแทสเซียมเพื่อควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ การรักษาสมดุลกรด-ด่าง (pH) โพแทสเซียมช่วยควบคุมสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย โดยทำงานร่วมกับโซเดียมและแร่ธาตุอื่น ๆ การควบคุมความดันโลหิต โพแทสเซียมมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต โดยส่งผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด และลดผลกระทบของโซเดียมในร่างกาย การแ...

ไมโครไบโอมและสุขภาพลำไส้ (microbiome and gut health)

 ไมโครไบโอมและสุขภาพลำไส้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า “ไมโครไบโอม” ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการสุขภาพ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งไมโครไบโอมหมายถึงระบบนิเวศของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์ รวมถึงแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส ที่มีความหลากหลายและมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกาย ไมโครไบโอมคืออะไร? ไมโครไบโอมในลำไส้ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่มีทั้งชนิดดีและไม่ดี ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้มีหน้าที่ในการย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหาร และสร้างวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามิน K และ B12. นอกจากนี้ ไมโครไบโอมยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และมีส่วนในการควบคุมอารมณ์และสุขภาพจิต. การเกิดขึ้นของไมโครไบโอมเริ่มตั้งแต่แรกเกิด โดยจะได้รับจุลินทรีย์จากแม่ผ่านการคลอดและน้ำนมแม่ รวมถึงจากสิ่งแวดล้อมที่เด็กสัมผัส. เมื่อเติบโตขึ้น ไมโครไบโอมจะเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิต และสุขภาพโดยรวมของแต่ละบุคคล ความสำคัญของความสมดุลในไมโครไบโอม ความสมดุลของไมโครไบโอมเป็นสิ่งสำคัญ หากมีความไม่สมดุลระหว่างจุลินทรีย์ดีและไม่ดี อาจส่งผลให้เกิดปั...

เมื่อมีความเสี่ยงกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) ต้องทำอย่างไร

"หากคุณสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) หรือมีอาการผิดปกติ ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้" ขั้นตอนที่ควรทำ 1. ปรึกษาแพทย์: หากคุณมีอาการเช่น คัน ตุ่มน้ำ หนอง หรือปัสสาวะแสบขัด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง. 2. การตรวจสุขภาพ: • การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักจะรวมถึงการตรวจเลือดและการตรวจร่างกาย โดยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามประวัติสุขภาพและพฤติกรรมของคุณ. • การตรวจเลือดสามารถใช้เพื่อหาสัญญาณของโรคต่าง ๆ เช่น HIV, ซิฟิลิส, ไวรัสตับอักเสบ B และ C, หนองใน และเริม การตรวจทางห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจได้ 1. ตรวจเลือด: • HIV: ตรวจหาเชื้อเอชไอวี • ซิฟิลิส (Syphilis): ตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ เช่น  Rapid Plasma Reagin (RPR) หรือ Treponema Pallidum Hemagglutination Assay (TPHA) • ไวรัสตับอักเสบ B และ C: ตรวจหาเชื้อและภูมิคุ้มกัน ได้แก่  Hepatitis B Surface Antigen (HBsAg)  Anti-HBs Anti-HCV และ HCV RNA • หนองในและหนองในเทียม: ตรวจหาเชื้อจากตัวอย่างเลือดหรือปัสสาวะ 2. ตรวจภายใน (Pa...

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases: STDs) คืออะไร

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเรียกย่อ ๆ ว่า STDs โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases: STDs) หรือที่เรียกกันว่า กามโรค เป็นกลุ่มของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อที่สามารถแพร่กระจายได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือทางปาก โดยเชื้อโรคเหล่านี้อาจเป็นไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิต โรคเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายและสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สาเหตุและการแพร่กระจาย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกิดจากการติดเชื้อที่สามารถส่งผ่านได้หลายวิธี ได้แก่: • การมีเพศสัมพันธ์: ผ่านการสัมผัสกับของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำอสุจิ เลือด หรือของเหลวในช่องคลอด • การใช้เข็มร่วมกัน: โดยเฉพาะในผู้ใช้สารเสพติดที่มักจะไม่คำนึงถึงความปลอดภัย • การส่งต่อจากแม่สู่ลูก: ผ่านการตั้งครรภ์หรือการคลอดบุตร ประเภทของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 1. ซิฟิลิส: เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum มีระยะฟักตัว 10-90 วัน อาการเริ่มต้นมักเป็นแผลที่อวัยวะเพศ และหากไม่ได้รับการรักษา อาจลุกลามไปยังระบบอื่นๆ ของร่างกาย 2. หนองในแท้: เกิดจากเชื้อ Nei...

กรุ๊ปเลือด หรือ หมู่เลือดคืออะไร (What is blood groups?)

กรุ๊ปเลือดคืออะไร (What is blood groups?) กรุ๊ปเลือดหรือหมู่เลือดเป็นลักษณะเฉพาะของเลือดที่มีความสำคัญทั้งในด้านการแพทย์และการถ่ายเลือด โดยถูกกำหนดจากสารที่อยู่บนผิวเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งเรียกว่า แอนติเจน (Antigens) และ แอนติบอดี (Antibodies) ที่มีอยู่ในพลาสม่า ความหมายและความสำคัญของกรุ๊ปเลือด กรุ๊ปเลือดคือการจำแนกประเภทของเลือดตามชนิดของแอนติเจนที่มีอยู่บนเซลล์เม็ดเลือดแดง โดยทั่วไปแล้วกรุ๊ปเลือดมีความสำคัญในการถ่ายเลือด เนื่องจากการให้เลือดที่ไม่ตรงกันระหว่างผู้บริจาคและผู้รับอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงระหว่างแอนติเจนและแอนติบอดีถึงขั้นเสียชีวิตได้ การรู้กรุ๊ปเลือดของตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นในกรณีฉุกเฉินที่ต้องได้รับการถ่ายเลือด. ระบบการจำแนกกรุ๊ปเลือด ระบบหมู่เลือดแบบ ABO ระบบ ABO เป็นระบบที่รู้จักกันดีที่สุดในการจำแนกกรุ๊ปเลือด โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่: • กรุ๊ป A: มีแอนติเจน A บนเซลล์เม็ดเลือดแดง และมีแอนติบอดี B ในพลาสม่า • กรุ๊ป B: มีแอนติเจน B บนเซลล์เม็ดเลือดแดง และมีแอนติบอดี A ในพลาสม่า • กรุ๊ป AB: มีทั้งแอนติเจน A และ B บนเซลล์เม็ดเลือดแดง และไม่มีแอ...

เทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมสายยาว หรือ Long-Read Sequencing

เทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมสายยาว หรือ Long-Read Sequencing เทคโนโลยีการหาลำดับพันธุกรรมแบบ Long-Read หรือที่เรียกว่าการหาลำดับพันธุกรรมยุคที่สาม (Third-Generation Sequencing) เป็นการพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงวงการจีโนมิกส์อย่างสำคัญ เทคโนโลยีนี้สามารถอ่าน DNA หรือ RNA ในรูปแบบที่ยาวต่อเนื่อง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาที่พบในพื้นที่ที่ซับซ้อนหรือซ้ำกันในจีโนม เนื้อหานี้จะอธิบายพื้นฐานของเทคโนโลยีนี้ การทำงานเชิงเทคนิค และการใช้งานที่ทำให้เทคโนโลยีนี้มีความสำคัญในงานวิจัยสมัยใหม่ พื้นฐานของการหาลำดับพันธุกรรมแบบ Long-Read ในเทคโนโลยีการหาลำดับแบบ Short-Read แบบดั้งเดิม DNA หรือ RNA จะถูกแบ่งเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กและทำการหาลำดับทีละส่วน จากนั้นจึงนำมาประกอบกลับด้วยกระบวนการคำนวณ วิธีนี้อาจมีปัญหาเมื่อต้องจัดการกับพื้นที่ที่มีการซ้ำกันสูงหรือมีความซับซ้อน เทคโนโลยี Long-Read ช่วยแก้ปัญหานี้โดยการอ่านลำดับที่ยาวกว่า—บางครั้งยาวเกินกว่า 10,000 เบส—ซึ่งให้ข้อมูลที่ครอบคลุมและแม่นยำมากขึ้นสำหรับการวิเคราะห์จีโนม ปัจจุบันมีสองบริษัทหลักที่เป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้ ได้แก่: PacBio (Pacific Biosciences) : โดด...

ภาวะโลหิตจาง (anemia) ที่เกิดจากความผิดปกติของ globin chains

ภาวะโลหิตจางจากความผิดปกติของ Globin Chains: สาเหตุ การวินิจฉัย และการรักษา ภาวะโลหิตจาง (anemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงหรือฮีโมโกลบินในเลือดต่ำกว่าปกติ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการขนส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ในกรณีที่เกิดจากความผิดปกติของโกลบินเชน (globin chains) จะเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในเม็ดเลือดแดง ภาวะนี้สามารถพบได้ในโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย (thalassemia) และฮีโมโกลบินผิดปกติ (hemoglobinopathies) ฮีโมโกลบินและโกลบินเชนคืออะไร? ฮีโมโกลบิน (hemoglobin) เป็นโปรตีนที่พบในเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนจากปอดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ประกอบด้วยสองส่วนหลัก ได้แก่: ฮีม (heme): เป็นส่วนประกอบที่มีธาตุเหล็ก ทำหน้าที่จับกับออกซิเจน โกลบิน (globin): เป็นโปรตีนที่ประกอบด้วยสายโพลีเปปไทด์ 4 สาย (globin chains) ได้แก่ α-globin และ β-globin เป็นหลักในผู้ใหญ่ ความผิดปกติในการสร้างโกลบินเชนส่งผลให้เกิดฮีโมโกลบินที่ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ และอาจทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย (hemolysis) หรือมีอายุสั้น สาเหตุของภาวะโลหิตจางจากความผิดปก...

การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Therapy): ความก้าวหน้าและโอกาสในการรักษาโรค

การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Therapy): ความก้าวหน้าและโอกาสในการรักษาโรค การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Therapy) เป็นแนวทางการรักษาที่ใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อซ่อมแซมหรือทดแทนเนื้อเยื่อที่เสียหายจากโรคหรือการบาดเจ็บ เซลล์ต้นกำเนิดมีความสามารถพิเศษในการแบ่งตัวและเปลี่ยนเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้การบำบัดนี้เป็นความหวังใหม่ในวงการแพทย์ โดยเฉพาะในโรคที่ยังไม่มีวิธีรักษาที่ได้ผลดี เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคทางระบบประสาท เซลล์ต้นกำเนิดคืออะไร? เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) คือเซลล์ที่ยังไม่ได้พัฒนาไปเป็นเซลล์เฉพาะทาง สามารถแบ่งตัวเพื่อสร้างเซลล์ใหม่ และเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท หรือเซลล์เม็ดเลือด เซลล์ต้นกำเนิดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก: เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน (Embryonic Stem Cells) มีศักยภาพสูงในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย แต่การใช้เซลล์ชนิดนี้มีข้อโต้แย้งในด้านจริยธรรม เซลล์ต้นกำเนิดจากร่างกาย (Adult Stem Cells) พบในเนื้อเยื่อต่าง ๆ เช่น ไขกระดูก ไขมัน และเลือด สามารถนำไปใช้ซ่อมแซมเนื้อเยื่อเฉพาะที่ในร...

อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง

 อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง การเลือกอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการทำงานของไตที่ลดลงส่งผลต่อการขจัดของเสียและสมดุลของสารอาหารในร่างกาย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคจึงช่วยลดภาระของไตและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ หลักการทั่วไปในการเลือกอาหาร ควบคุมปริมาณโปรตีน ผู้ป่วยควรลดการบริโภคโปรตีนที่มากเกินไป เพื่อลดการสะสมของของเสียจากโปรตีนในร่างกาย อย่างไรก็ตาม โปรตีนยังคงจำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ดังนั้น ควรเลือกโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อปลา ไข่ขาว หรือเต้าหู้ จำกัดโซเดียม โซเดียมส่งผลต่อการควบคุมความดันโลหิตและการกักเก็บน้ำในร่างกาย ผู้ป่วยโรคไตจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเค็ม เช่น ของหมักดอง อาหารกระป๋อง และขนมขบเคี้ยวที่มีเกลือสูง ควรบริโภคเกลือไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ควบคุมโพแทสเซียม โพแทสเซียมสูงอาจเป็นอันตรายต่อหัวใจ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย อะโวคาโด มันฝรั่ง และควรบริโภคผักที่ผ่านการลวกเพื่อลดโพแทสเซียมก่อนรับประทาน ผักที่เหมาะสม เช่น แตงกวา ฟักทอง บวบ และหน่อไม้ฝรั่ง ส่วนผลไม้ที่ควรเลือก เช่น แ...

การอ่านผลตรวจไขมันในเลือดด้วยตนเอง

  การอ่านผลตรวจไขมันในเลือดด้วยตนเอง การตรวจไขมันในเลือดเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยประเมินความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการติดตามสุขภาพของผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของไขมัน การอ่านและแปลผลตรวจไขมันในเลือดควรคำนึงถึงค่าปกติและปัจจัยที่มีผลต่อการวินิจฉัยอย่างเหมาะสม ไขมันในเลือดคืออะไร? ไขมันในเลือดเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบร่างกายที่ใช้ในการเก็บพลังงานและสร้างส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆ ไขมันในเลือดมีหลายชนิด เช่น ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) และโคเลสเตอรอล (Cholesterol) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์และเป็นตัวตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิดในร่างกาย โคเลสเตอรอลคืออะไร? โคเลสเตอรอลเป็นสารไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถผลิตได้เองในตับ และยังสามารถรับจากอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ และผลิตภัณฑ์นม โคเลสเตอรอลในร่างกายแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่: โคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL - High-Density Lipoprotein) : ทำหน้าที่ขนส่งโคเลสเตอรอลส่วนเกินจากเนื้อเยื่อต่างๆ กลับไปยังตับเพื่อกำจัด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL - Low-Density Lipoprotein) : ทำหน้าที่ขนส่ง...