ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โรคดาวน์ซินโดรมคืออะไร?

โรคดาวน์ซินโดรม

ความเข้าใจในทุกมิติ

โรคดาวน์ซินโดรม (Down syndrome) เป็นหนึ่งในภาวะทางพันธุกรรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวในหลายมิติ ดาวน์ซินโดรมเกิดจากการมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ซึ่งทำให้จำนวนโครโมโซมทั้งหมดกลายเป็น 47 แท่งแทนที่จะเป็น 46 แท่ง ความผิดปกตินี้ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย

โรคนี้เป็นภาวะที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มความผิดปกติของโครโมโซม และมีอุบัติการณ์ประมาณ 1 ใน 700 ของทารกแรกเกิด นั่นหมายความว่า ในทุก ๆ ปีจะมีเด็กที่เกิดมาพร้อมภาวะนี้จำนวนไม่น้อย ซึ่งทำให้ความเข้าใจและการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจทุกแง่มุมของโรคดาวน์ซินโดรม ตั้งแต่สาเหตุ อาการ ไปจนถึงแนวทางการดูแลและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณค่าและมีความสุข

สาเหตุและพันธุกรรม

โรคดาวน์ซินโดรมเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่:

  1. Trisomy 21 (พบ 95% ของผู้ป่วย) – เกิดจากการมีโครโมโซม 21 เกินมาทั้งหมด

  2. Translocation Down Syndrome (พบ 3-4%) – เกิดจากบางส่วนของโครโมโซม 21 ไปเชื่อมกับโครโมโซมอื่น

  3. Mosaic Down Syndrome (พบ 1-2%) – เกิดจากบางเซลล์มีโครโมโซม 21 เกินมา ขณะที่บางเซลล์ปกติ ทำให้มีอาการน้อยกว่าปกติ

ลักษณะทางกายภาพและพัฒนาการ

เด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรมมักมีลักษณะทางกายภาพที่เฉพาะเจาะจง เช่น:

  • ศีรษะและใบหน้ากลม ตาเฉียงขึ้น

  • คอสั้น ลิ้นมักยื่นออกมา

  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง (hypotonia) ทำให้พัฒนาการช้ากว่าปกติ

  • มือและเท้าเล็ก นิ้วก้อยมักโค้งเข้าด้านใน

  • มีร่องฝ่ามือเส้นเดียว (simian crease)

ด้านพัฒนาการทางสติปัญญาและพฤติกรรม เด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรมมักมีสติปัญญาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าปกติ และอาจมีปัญหาด้านการเรียนรู้และพฤติกรรมร่วมด้วย

ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

ผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรมมีความเสี่ยงสูงต่อโรคและภาวะสุขภาพต่าง ๆ เช่น:

  • โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (พบใน 50% ของผู้ป่วย)

  • ปัญหาการได้ยินและการมองเห็น

  • โรคไทรอยด์ผิดปกติ

  • ภูมิคุ้มกันต่ำ มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย

  • ความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ในวัยสูงอายุ

การวินิจฉัย

การวินิจฉัยโรคดาวน์ซินโดรมสามารถทำได้ตั้งแต่ระยะก่อนคลอดและหลังคลอด:

  1. การตรวจคัดกรองระหว่างตั้งครรภ์ เช่น การตรวจเลือดของมารดา (NIPT test) การตรวจอัลตราซาวนด์

  2. การตรวจวินิจฉัยทางพันธุกรรม เช่น การเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis) หรือการตรวจชิ้นเนื้อรก (CVS)

  3. การวินิจฉัยหลังคลอด โดยดูจากลักษณะภายนอกและยืนยันด้วยการตรวจโครโมโซม

แนวทางการดูแลและการรักษา

แม้ว่าโรคดาวน์ซินโดรมจะไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่สามารถดูแลและพัฒนาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ผ่านแนวทางต่าง ๆ เช่น:

  • การดูแลทางการแพทย์: ตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อตรวจหาภาวะผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น

  • การพัฒนาและฟื้นฟูสมรรถภาพ: กายภาพบำบัด พัฒนาการทางภาษา และกิจกรรมบำบัด

  • การศึกษาและการสนับสนุนทางสังคม: การเรียนการสอนที่เหมาะสมและการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม

  • การใช้ยาและการผ่าตัด: ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจแต่กำเนิด

สังคมและคุณภาพชีวิต

ปัจจุบันมีการสนับสนุนผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรมให้มีโอกาสทางการศึกษาและอาชีพที่ดีขึ้น หลายคนสามารถเรียนหนังสือ ทำงาน และใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณค่า หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากครอบครัวและชุมชน

สรุป

โรคดาวน์ซินโดรมเป็นภาวะทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยและมีผลกระทบต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกายและสติปัญญา อย่างไรก็ตาม ด้วยการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสม การพัฒนาในด้านการศึกษา และการสนับสนุนจากสังคม ผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรมสามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพและมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเต็มที่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลอดใส่เลือดมี่กี่ชนิด (tube เลือดมี่กี่ชนิด)

        หลาย ๆ ท่านอาจสงสัยนะครับว่าเวลามีนัดต้องไปพบแพทย์ และเมื่อถึงเวลาเจาะเลือด ทำไมถึงต้องเก็บเลือดเราไปทีละหลาย ๆ หลอดและในการนัดแต่ละครั้งก็มีการเจาะเลือดไปไม่เหมือนเดิมกับครั้งก่อน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันครับว่าหลอดใส่เลือดแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร         ปัจจุบันในทางการแพทย์หลอดสำหรับเก็บตัวอย่างเลือดนั้นถูกพัฒนามาหลายรูปแบบด้วยกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพสำหรับตรวจทางห้องปฏิบัติการรวมถึงระยะในการเก็บรักษาตัวอย่างเลือดให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์ของการตรวจทางห้องปฏิบัติการครับ สำหรับในวันนี้จะพามาทำความรู้จักกับหลอดเลือดพื้นฐานที่ใช้ในการตรวจประจำของโรงพยาบาลโดยทั่วไปครับ  สิ่งที่อยู่ในหลอดเลือดแต่ละสี        สิ่งที่อยู่ข้างในหลอดเลือดสีต่าง ๆ คือ สารเคมีที่ป้องกันการแข็งตัวของเลือด (สารกันเลือดแข็ง) โดยในหลอดแต่ละสีก็จะมีสารกันเลือดแข็งคนละชนิดกันครับ ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้สารกันเลือดแข็งหลายชนิด ไม่สามารถใช้ชนิดเดียว หรือหลอดเดียวสำหรับารตรวจได้ทั้งหมดก็เพราะว่าส...

DNA ตอนที่ 1 : DNA คืออะไร และโครงสร้างของ DNA

สารพันธุกรรม (genetic materials) ห มายถึงสารที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งสิ่งมีชีวิตระดับโปรคาริโอต (prokaryote) และยูคาริโอต (eukaryote) โดยสารพันธุกรรมประกอบด้วย ดีเอ็นเอ (deoxyribonucleic acid หรือ DNA) และอาร์เอ็นเอ (ribonucleic acid หรือ RNA) การเก็บรักษาข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเกิดจากการเรียงลำดับของหน่อยย่อยที่สุดของ DNA และ RNA อย่างเป็นระเบียบและมีความหมาย ซึ่งหน่อยย่อยของดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอเราเรียกว่า นิวคลีโอไทด์ (nucleotide) สิ่งมีชีวิตจะทำการแปลรหัสข้อมูลนิวคลีโอไทด์เหล่านี้ออกมาเป็นโปรตีนเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ ของเซลล์หรือร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่อไปผ่านการทำงานร่วมกันตั้งแต่ DNA RNA ไปจนถึงขั้นตอนการสั่งเคราะห์โปรตีน อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตบางประเภทจะเก็บข้อมูลพื้นฐานของตัวเองในรูปแบบของ RNA เท่านั้น เช่นไวรัสในกลุ่มรีโทรไวรัส หรือที่เรารู้จักกันดีก็คือไวรัสโควิด ภาพที่ 1 แสดงโครงสร้างจำลองของ DNA ที่มาภาพ : http://becuo.com/red-dna-wallpaper   DNA (deoxyribonucleic acid )                  D...

โครงสร้างโปรตีน (Protein structure)

โครงสร้างโปรตีน (Protein structure)             โปรตีนคือสารชีวโมเลกุลขนาดใหญ่และมีโครงสร้างซับซ้อนเกิดจากหน่วยย่อยกรดอะมิโน (amino acid) จำนวนมากตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันหน่วยมาต่อกันเกิดเป็นสายยาว (long chains) เรียกว่า polypeptide ซึ่งในสายหรือระหว่างสายของ polypeptide เองก็จะเกิดพันธะทางเคมีขึ้นได้ทำให้โปรตีนมีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไปและทำให้โปรตีนเองมีคุณสมบัติที่หลากหลายและโครงสร้างซับซ้อน             กรดอะมิโนเป็นหน่วยย่อย (monomer) ของโปรตีนซึ่งประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 20 ชนิด โครงสร้างของกรดอะมิโนประกอบด้วย หมู่อะมิโน (NH 3 ) หมู่คาร์บอกซิล (COO - ) และหมู่ R หรือ side chain ที่จับอยู่กับ alpha carbon โดยกรดอะมิโนแต่ละชนิดจะมีโครงสร้างเหมือนกันจะแตกต่างกันเพียงแค่หมู่ R เท่านั้น กรดอะมิโนแต่ละตัวจะมีเชื่อมต่อกันโดยพันธะเพปไทด์ (peptide bond) ระหว่างหมู่คาร์บอกซิลและหมู่อะมิโน ดังนั้นสิ่งที่กำหนดคุณสมบัติของโปรตีน หน้าที่ของโปรตีน และโครงสร้างของโปรตีนก็คื...