ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ การตรวจเลือด

Digital PCR และหลักการตรวจ NIPT

  Digital PCR และหลักการตรวจ NIPT Digital PCR (dPCR) เป็นเทคนิคที่พัฒนามาจาก Polymerase Chain Reaction (PCR) แบบดั้งเดิม โดยมีความสามารถในการตรวจจับและวัดปริมาณกรดนิวคลีอิก (DNA หรือ RNA) ได้อย่างแม่นยำและละเอียดกว่าการทำ quantitative PCR (qPCR) เทคนิคนี้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ตัวอย่างที่มีปริมาณน้อย หรือมีเป้าหมายที่ต้องการวัดอยู่ในระดับต่ำมาก หนึ่งในการประยุกต์ใช้ที่สำคัญของ dPCR คือการตรวจคัดกรองความผิดปกติของทารกในครรภ์แบบไม่รุกล้ำ หรือ Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT) หลักการทำงานของ Digital PCR Digital PCR มีหลักการทำงานโดยการแบ่งตัวอย่าง DNA หรือ cDNA ออกเป็นจำนวนมากของไมโครรีแอคชัน (microreaction) หรือดรอปเล็ต (droplet) แต่ละรีแอคชันจะทำปฏิกิริยา PCR แยกจากกันเป็นอิสระ และมีเพียง DNA เป้าหมายเดียวในแต่ละรีแอคชัน ผลลัพธ์จะถูกวิเคราะห์แบบไบนารี (Binary Analysis) คือ มีสัญญาณ (positive) หรือไม่มีสัญญาณ (negative) จากนั้นใช้สถิติ Poisson ในการคำนวณปริมาณของ DNA เป้าหมายที่แท้จริง หลักการตรวจ NIPT ด้วย Digital PCR NIPT อาศัยการตรวจสอบเซลล์ฟรี DNA (cfDNA) ที่อยู่ในกระแสเลือดข...

Digital PCR คืออะไร และใช้ทำงานด้านไหน

Digital PCR (dPCR) Digital PCR (dPCR) เป็นเทคนิคที่พัฒนามาจาก Polymerase Chain Reaction (PCR) แบบดั้งเดิม โดยมีความสามารถในการตรวจจับและวัดปริมาณกรดนิวคลีอิก (DNA หรือ RNA) ได้อย่างแม่นยำและละเอียดกว่าการทำ quantitative PCR (qPCR) เทคนิคนี้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ตัวอย่างที่มีปริมาณน้อย หรือมีเป้าหมายที่ต้องการวัดอยู่ในระดับต่ำมาก หลักการทำงานของ Digital PCR Digital PCR มีหลักการทำงานโดยการแบ่งตัวอย่าง DNA หรือ cDNA ออกเป็นจำนวนมากของไมโครรีแอคชัน (microreaction) หรือดรอปเล็ต (droplet) แต่ละรีแอคชันจะทำปฏิกิริยา PCR แยกจากกันเป็นอิสระ และมีเพียง DNA เป้าหมายเดียวในแต่ละรีแอคชัน ผลลัพธ์จะถูกวิเคราะห์แบบไบนารี (Binary Analysis) คือ มีสัญญาณ (positive) หรือไม่มีสัญญาณ (negative) จากนั้นใช้สถิติ Poisson ในการคำนวณปริมาณของ DNA เป้าหมายที่แท้จริง ข้อดีของ Digital PCR ความแม่นยำสูง : สามารถวัดปริมาณ DNA หรือ RNA ได้โดยไม่ต้องใช้ standard curve เหมือน qPCR ความไวสูง : สามารถตรวจจับตัวอย่างที่มี DNA เป้าหมายปริมาณน้อยได้อย่างแม่นยำ ทนต่อการรบกวน : ไม่ได้รับผลกระทบจาก inhibitors ในตัวอย่างมากนัก...

คำแนะนำการตรวจ Tumor Marker ในเลือด

คำแนะนำการตรวจ Tumor Marker ในเลือด Tumor markers เป็นสารชีวโมเลกุลที่สามารถตรวจพบได้ในเลือด ปัสสาวะ หรือเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยมักถูกผลิตขึ้นโดยเซลล์มะเร็งหรือเซลล์ปกติที่มีการตอบสนองต่อมะเร็ง การตรวจ tumor markers ในเลือดเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยในการคัดกรอง ติดตาม และวินิจฉัยโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ค่าของ tumor markers อาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น เช่น ภาวะอักเสบ โรคเรื้อรัง และปัจจัยทางพันธุกรรม ดังนั้น การแปลผลต้องทำอย่างระมัดระวังร่วมกับข้อมูลทางคลินิกอื่น ๆ ประเภทของ Tumor Markers ที่นิยมตรวจในเลือด Alpha-fetoprotein (AFP) ใช้ในการตรวจหามะเร็งตับ (Hepatocellular carcinoma) สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้มะเร็งของอัณฑะและรังไข่ ค่า AFP สูงอาจเกิดจากภาวะอื่น เช่น ตับแข็งและไวรัสตับอักเสบ Carcinoembryonic Antigen (CEA) ใช้ติดตามมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก สามารถเพิ่มขึ้นในมะเร็งตับอ่อน มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านม ระดับ CEA อาจสูงขึ้นในผู้สูบบุหรี่หรือผู้ที่มีภาวะอักเสบเรื้อรัง Prostate-Specific Antigen (PSA) ใช้คัดกรองและติดตามมะเร็งต่อมลูกหมาก ค่า PSA อาจสูงขึ้นจากภาวะอ...

หลักการตรวจวิเคราะห์ของ NIPT ด้วย NGS

หลักการตรวจวิเคราะห์ของ NIPT ด้วย NGS การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมก่อนคลอดโดยใช้เทคโนโลยีการตรวจหาดีเอ็นเอของทารกจากเลือดมารดา หรือที่เรียกว่า Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT) เป็นเทคนิคที่ทันสมัยและมีความแม่นยำสูง NIPT อาศัยเทคโนโลยี Next-Generation Sequencing (NGS) ในการตรวจวิเคราะห์ความผิดปกติของโครโมโซมของทารกจาก cell-free fetal DNA (cffDNA) ที่อยู่ในกระแสเลือดของมารดา หลักการของ NIPT ด้วย NGS 1. การเก็บตัวอย่างและเตรียมดีเอ็นเอ ตัวอย่างเลือดของมารดาจะถูกเก็บในหลอดเฉพาะที่ช่วยรักษาคุณภาพของ cffDNA หลังจากนั้นเลือดจะถูกปั่นแยกพลาสมาออกมา และทำการสกัด cell-free DNA (cfDNA) ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างดีเอ็นเอของมารดาและทารก การแยก cfDNA ของมารดาและทารกออกจากกัน cfDNA ของทารก (cffDNA) มักจะมีขนาดสั้นกว่า cfDNA ของมารดา โดยทั่วไป cffDNA มีขนาดประมาณ 140-160 bp ในขณะที่ cfDNA ของมารดาจะมีขนาดใหญ่กว่า (มากกว่า 160 bp) สามารถใช้เทคนิค Size Selection เพื่อเลือกเฉพาะชิ้นดีเอ็นเอที่มีขนาดสั้นเพื่อเพิ่มความแม่นยำของการตรวจ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีการคำนวณสัดส่วนของ cfDNA โดยเปรียบเทีย...

ไข้หวัดใหญ่: โรคติดต่อทางเดินหายใจที่ควรรู้

ไข้หวัดใหญ่: โรคติดต่อทางเดินหายใจที่ควรรู้ ความหมายของไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ ไวรัสชนิดนี้สามารถก่อให้เกิดอาการตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตในบางกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัว ชนิดของไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่สามารถจำแนกออกเป็น 4 ชนิดหลัก ได้แก่: ไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (Influenza A) - เป็นชนิดที่พบมากที่สุดและสามารถก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ได้ ไวรัสชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์ เช่น H1N1, H3N2 เป็นต้น ไข้หวัดใหญ่ชนิดบี (Influenza B) - พบการระบาดในมนุษย์และสามารถก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้ แต่ไม่แพร่ระบาดมากเท่าชนิด A ไข้หวัดใหญ่ชนิดซี (Influenza C) - มีอาการไม่รุนแรง มักไม่ก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่ชนิดดี (Influenza D) - พบในสัตว์ เช่น วัว แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดโรคในมนุษย์ อาการของไข้หวัดใหญ่ อาการของไข้หวัดใหญ่มักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าไข้หวัดธ...

การแปลผลตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count - CBC)

การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count - CBC) เป็นหนึ่งในการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นพื้นฐานการตรวจเลยทีเดียว โดยจะถูกนำมาใช้เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวม คัดกรองภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อ และโรคเกี่ยวกับเลือดอื่น ๆ การแปลผล CBC อย่างถูกต้องช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและติดตามอาการของโรคได้อย่างแม่นยำ ในบทความนี้ เราจะอธิบายองค์ประกอบหลักของ CBC และความหมายของค่าที่ตรวจพบ องค์ประกอบหลักของการตรวจ CBC และการแปลผล การตรวจ CBC ประกอบด้วยค่าพื้นฐานหลักที่สำคัญ ได้แก่ 1. เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cells - RBCs) เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ค่าที่สำคัญที่ใช้ประเมินเม็ดเลือดแดง ได้แก่: ปริมาณของเม็ดเลือดแดง (RBC count): ค่าปกติในเพศชายประมาณ 4.7-6.1 ล้านเซลล์/ไมโครลิตร และในเพศหญิง 4.2-5.4 ล้านเซลล์/ไมโครลิตร ค่าที่ต่ำอาจบ่งบอกถึงภาวะโลหิตจาง ในขณะที่ค่าที่สูงอาจสัมพันธ์กับภาวะขาดน้ำหรือโรคไขกระดูก ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin - Hgb): เป็นโปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน ค่าในเพศชายปกติอยู่ที่ 13.8-17.2 g/dL และใน...

โรคดาวน์ซินโดรมคืออะไร?

โรคดาวน์ซินโดรม: ความเข้าใจในทุกมิติ โรคดาวน์ซินโดรม (Down syndrome) เป็นหนึ่งในภาวะทางพันธุกรรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวในหลายมิติ ดาวน์ซินโดรมเกิดจากการมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ซึ่งทำให้จำนวนโครโมโซมทั้งหมดกลายเป็น 47 แท่งแทนที่จะเป็น 46 แท่ง ความผิดปกตินี้ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โรคนี้เป็นภาวะที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มความผิดปกติของโครโมโซม และมีอุบัติการณ์ประมาณ 1 ใน 700 ของทารกแรกเกิด นั่นหมายความว่า ในทุก ๆ ปีจะมีเด็กที่เกิดมาพร้อมภาวะนี้จำนวนไม่น้อย ซึ่งทำให้ความเข้าใจและการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจทุกแง่มุมของโรคดาวน์ซินโดรม ตั้งแต่สาเหตุ อาการ ไปจนถึงแนวทางการดูแลและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณค่าและมีความสุข สาเหตุและพันธุกรรม โรคดาวน์ซินโดรมเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่: Trisomy 21 (พบ 95% ของผู้ป่วย) – เกิดจากการมีโครโมโซม 21 เกินมาท...

Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT) คืออะไร?

NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing): ทางเลือกที่ปลอดภัยและแม่นยำสำหรับหญิงตั้งครรภ์ การตรวจคัดกรองก่อนคลอดบุตรมีความสำคัญอย่างมากในการดูแลสุขภาพของทารกในครรภ์ และ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) เป็นหนึ่งในวิธีที่ทันสมัยและมีความแม่นยำสูงมากและได้รับความนิยมในการตรวจคัดกรองปัจจุบัน โดยสามารถช่วยระบุความผิดปกติของโครโมโซมของทารกได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้ทำให้เกิดอันตราย (invasive) เหมือนกับการการตรวจแบบดั้งเดิม เช่น การเจาะน้ำคร่ำ (amniocentesis) หรือการตรวจชิ้นเนื้อรก (CVS, chorionic villus sampling)  หลักการทำงานของ NIPT เป็นการวิเคราะห์ DNA ของทารกที่ปนเปื้อนอยู่ในกระแสเลือดของมารดา (cell-free fetal DNA หรือ cfDNA) โดยใช้เทคนิคการตรวจวิเคราะห์ทางพันธุกรรมที่มีความแม่นยำสูง เช่น การหาลำดับเบสของ DNA (Next-Generation Sequencing; NGS) หรือการใช้เทคนิค PCR (Polymerase Chain Reaction) เพื่อวิเคราะห์โครโมโซมของทารก หากมีความผิดปกติ เช่น โครโมโซมเกินหรือขาด ระบบสามารถตรวจจับได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ความผิดปกติที่สามารถตรวจพบได้ กลุ่มอาการดาวน์ (Trisomy 21) กลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ดส์ (T...

การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ (Colorectal Cancer Screening)

การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ (Colorectal Cancer Screening) มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย การตรวจคัดกรองมีความสำคัญอย่างยิ่งในการค้นหาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง คือ เนื้องอกร้ายที่เกิดจากเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้ใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตผิดปกติ มักเริ่มต้นจากติ่งเนื้อ (polyp) ที่ไม่อันตราย แล้วค่อยๆ พัฒนากลายเป็นมะเร็ง อาการและอาการแสดง อาการเตือนที่ควรพบแพทย์: มีเลือดปนในอุจจาระ หรืออุจจาระสีดำ การเปลี่ยนแปลงของลักษณะการถ่ายอุจจาระ เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระเป็นเส้นเล็กลง ปวดท้องเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่สุด อาการในระยะต่างๆ: ระยะเริ่มแรก: มักไม่มีอาการ ระยะกลาง: อาจมีเลือดออกเป็นครั้งคราว ท้องผูกสลับท้องเสีย ระยะลุกลาม: ปวดท้องรุนแรง น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลีย ความสำคัญของการตรวจคัดกรอง การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้มีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ: 1. เพื่อตรวจหาริ้วรอยของมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ก่อ...

การตรวจฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด และการแปลผล

การตรวจฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด ฮอร์โมนไทรอยด์คือฮอร์โมนที่ผลิตโดยต่อมไทรอยด์ ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณลำคอของเรา มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ โดยฮอร์โมนหลักที่ถูกผลิตออกมาได้แก่ Triiodothyronine (T3) และ Thyroxine (T4) ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมการเติบโต การพัฒนาของร่างกาย รวมถึงการรักษาอุณหภูมิของร่างกายและระดับไขมันในเลือด นอกจาก T3 และ T4 แล้ว Thyroid Stimulating Hormone (TSH) ซึ่งถูกผลิตโดยต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) มีหน้าที่กระตุ้นการผลิตและหลั่งฮอร์โมน T3 และ T4 จากต่อมไทรอยด์ การวัดระดับ TSH เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินการทำงานของต่อมไทรอยด์ เนื่องจาก TSH จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกาย หน้าที่ของฮอร์โมนไทรอยด์ 1. ควบคุมการเผาผลาญ: ฮอร์โมน T3 และ T4 ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในเซลล์ ทำให้ร่างกายสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ. 2. ส่งเสริมการเจริญเติบโต: ฮอร์โมนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย โดยเฉพาะในเด็ก. 3. ควบคุมอุณหภูมิ: ฮอร์โมนไทรอยด์ช่วยในการรักษา...

ทำไมการแปลผลทดสอบทางพันธุกรรมถึงไม่ใช่เรื่องง่าย

"ทำไมการแปลผลทดสอบทางพันธุกรรมถึงไม่ใช่เรื่องง่าย" ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมที่ทันสมัยมาใช้มากขึ้นในประเทศไทย แต่การแปลผลทดสอบทางพันธุกรรมนั้นเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและท้าทายอย่างมาก แม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วไปก็ยังไม่สามารถที่จะแปลผลการทดสอบเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการวินิจฉัยโรคและการวางแผนการรักษา ในบทความนี้จะอธิบายเหตุผลที่ทำให้การแปลผลทดสอบทางพันธุกรรมไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เราคิดกันครับ พร้อมกับการพูดถึงเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในปัจจุบัน เช่น single gene Test หรือ muti-genes panel test, Whole Exome Sequencing (WES), และ Whole Genome Sequencing (WGS) ความซับซ้อนของข้อมูลพันธุกรรม 1. ความหลากหลายของยีนและความผิดปกติ ยีนแต่ละตัวในร่างกายของคนเรานั้นสามารถมีการกลายพันธุ์ได้หลายรูปแบบ ซึ่งส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ การตรวจสอบความผิดปกติทางพันธุกรรมจึงต้องใช้เทคนิคที่หลากหลาย เช่น การตรวจโครโมโซมอะเรย์ (Chromosomal Microarray Analysis) และการตรวจหายีนส์กลายพันธุ์ (Mutation...

โพแทสเซียมในเลือดสำคัญอย่างไร และการแปลผลเลือด

โพแทสเซียมในเลือดสำคัญอย่างไร และการแปลผล โพแทสเซียม (Potassium) เป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงการรักษาสมดุลของของเหลวในเซลล์และระบบไหลเวียนเลือดเรา ดังนั้นระดับโพแทสเซียมที่เหมาะสมในเลือดจึงมีความสำคัญอย่างมากกับร่างกายของเรา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับโพแทสเซียมสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงได้ครับ บทบาทสำคัญของโพแทสเซียมในร่างกาย การส่งสัญญาณประสาท โพแทสเซียมมีบทบาทในการช่วยส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาท ทำให้ระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การควบคุมการเคลื่อนไหว การตอบสนองต่อสิ่งเร้า และการทำงานของสมอง การทำงานของกล้ามเนื้อ ระดับโพแทสเซียมที่เหมาะสมช่วยให้กล้ามเนื้อหดตัวและคลายตัวได้อย่างปกติ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจที่ต้องการโพแทสเซียมเพื่อควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ การรักษาสมดุลกรด-ด่าง (pH) โพแทสเซียมช่วยควบคุมสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย โดยทำงานร่วมกับโซเดียมและแร่ธาตุอื่น ๆ การควบคุมความดันโลหิต โพแทสเซียมมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต โดยส่งผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด และลดผลกระทบของโซเดียมในร่างกาย การแ...

เมื่อมีความเสี่ยงกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) ต้องทำอย่างไร

"หากคุณสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) หรือมีอาการผิดปกติ ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้" ขั้นตอนที่ควรทำ 1. ปรึกษาแพทย์: หากคุณมีอาการเช่น คัน ตุ่มน้ำ หนอง หรือปัสสาวะแสบขัด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง. 2. การตรวจสุขภาพ: • การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักจะรวมถึงการตรวจเลือดและการตรวจร่างกาย โดยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามประวัติสุขภาพและพฤติกรรมของคุณ. • การตรวจเลือดสามารถใช้เพื่อหาสัญญาณของโรคต่าง ๆ เช่น HIV, ซิฟิลิส, ไวรัสตับอักเสบ B และ C, หนองใน และเริม การตรวจทางห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจได้ 1. ตรวจเลือด: • HIV: ตรวจหาเชื้อเอชไอวี • ซิฟิลิส (Syphilis): ตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ เช่น  Rapid Plasma Reagin (RPR) หรือ Treponema Pallidum Hemagglutination Assay (TPHA) • ไวรัสตับอักเสบ B และ C: ตรวจหาเชื้อและภูมิคุ้มกัน ได้แก่  Hepatitis B Surface Antigen (HBsAg)  Anti-HBs Anti-HCV และ HCV RNA • หนองในและหนองในเทียม: ตรวจหาเชื้อจากตัวอย่างเลือดหรือปัสสาวะ 2. ตรวจภายใน (Pa...

กรุ๊ปเลือด หรือ หมู่เลือดคืออะไร (What is blood groups?)

กรุ๊ปเลือดคืออะไร (What is blood groups?) กรุ๊ปเลือดหรือหมู่เลือดเป็นลักษณะเฉพาะของเลือดที่มีความสำคัญทั้งในด้านการแพทย์และการถ่ายเลือด โดยถูกกำหนดจากสารที่อยู่บนผิวเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งเรียกว่า แอนติเจน (Antigens) และ แอนติบอดี (Antibodies) ที่มีอยู่ในพลาสม่า ความหมายและความสำคัญของกรุ๊ปเลือด กรุ๊ปเลือดคือการจำแนกประเภทของเลือดตามชนิดของแอนติเจนที่มีอยู่บนเซลล์เม็ดเลือดแดง โดยทั่วไปแล้วกรุ๊ปเลือดมีความสำคัญในการถ่ายเลือด เนื่องจากการให้เลือดที่ไม่ตรงกันระหว่างผู้บริจาคและผู้รับอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงระหว่างแอนติเจนและแอนติบอดีถึงขั้นเสียชีวิตได้ การรู้กรุ๊ปเลือดของตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นในกรณีฉุกเฉินที่ต้องได้รับการถ่ายเลือด. ระบบการจำแนกกรุ๊ปเลือด ระบบหมู่เลือดแบบ ABO ระบบ ABO เป็นระบบที่รู้จักกันดีที่สุดในการจำแนกกรุ๊ปเลือด โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่: • กรุ๊ป A: มีแอนติเจน A บนเซลล์เม็ดเลือดแดง และมีแอนติบอดี B ในพลาสม่า • กรุ๊ป B: มีแอนติเจน B บนเซลล์เม็ดเลือดแดง และมีแอนติบอดี A ในพลาสม่า • กรุ๊ป AB: มีทั้งแอนติเจน A และ B บนเซลล์เม็ดเลือดแดง และไม่มีแอ...

ภาวะโลหิตจาง (anemia) ที่เกิดจากความผิดปกติของ globin chains

ภาวะโลหิตจางจากความผิดปกติของ Globin Chains: สาเหตุ การวินิจฉัย และการรักษา ภาวะโลหิตจาง (anemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงหรือฮีโมโกลบินในเลือดต่ำกว่าปกติ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการขนส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ในกรณีที่เกิดจากความผิดปกติของโกลบินเชน (globin chains) จะเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในเม็ดเลือดแดง ภาวะนี้สามารถพบได้ในโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย (thalassemia) และฮีโมโกลบินผิดปกติ (hemoglobinopathies) ฮีโมโกลบินและโกลบินเชนคืออะไร? ฮีโมโกลบิน (hemoglobin) เป็นโปรตีนที่พบในเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนจากปอดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ประกอบด้วยสองส่วนหลัก ได้แก่: ฮีม (heme): เป็นส่วนประกอบที่มีธาตุเหล็ก ทำหน้าที่จับกับออกซิเจน โกลบิน (globin): เป็นโปรตีนที่ประกอบด้วยสายโพลีเปปไทด์ 4 สาย (globin chains) ได้แก่ α-globin และ β-globin เป็นหลักในผู้ใหญ่ ความผิดปกติในการสร้างโกลบินเชนส่งผลให้เกิดฮีโมโกลบินที่ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ และอาจทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย (hemolysis) หรือมีอายุสั้น สาเหตุของภาวะโลหิตจางจากความผิดปก...

อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง

 อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง การเลือกอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการทำงานของไตที่ลดลงส่งผลต่อการขจัดของเสียและสมดุลของสารอาหารในร่างกาย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคจึงช่วยลดภาระของไตและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ หลักการทั่วไปในการเลือกอาหาร ควบคุมปริมาณโปรตีน ผู้ป่วยควรลดการบริโภคโปรตีนที่มากเกินไป เพื่อลดการสะสมของของเสียจากโปรตีนในร่างกาย อย่างไรก็ตาม โปรตีนยังคงจำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ดังนั้น ควรเลือกโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อปลา ไข่ขาว หรือเต้าหู้ จำกัดโซเดียม โซเดียมส่งผลต่อการควบคุมความดันโลหิตและการกักเก็บน้ำในร่างกาย ผู้ป่วยโรคไตจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเค็ม เช่น ของหมักดอง อาหารกระป๋อง และขนมขบเคี้ยวที่มีเกลือสูง ควรบริโภคเกลือไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ควบคุมโพแทสเซียม โพแทสเซียมสูงอาจเป็นอันตรายต่อหัวใจ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย อะโวคาโด มันฝรั่ง และควรบริโภคผักที่ผ่านการลวกเพื่อลดโพแทสเซียมก่อนรับประทาน ผักที่เหมาะสม เช่น แตงกวา ฟักทอง บวบ และหน่อไม้ฝรั่ง ส่วนผลไม้ที่ควรเลือก เช่น แ...

การอ่านผลตรวจไขมันในเลือดด้วยตนเอง

  การอ่านผลตรวจไขมันในเลือดด้วยตนเอง การตรวจไขมันในเลือดเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยประเมินความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการติดตามสุขภาพของผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของไขมัน การอ่านและแปลผลตรวจไขมันในเลือดควรคำนึงถึงค่าปกติและปัจจัยที่มีผลต่อการวินิจฉัยอย่างเหมาะสม ไขมันในเลือดคืออะไร? ไขมันในเลือดเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบร่างกายที่ใช้ในการเก็บพลังงานและสร้างส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆ ไขมันในเลือดมีหลายชนิด เช่น ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) และโคเลสเตอรอล (Cholesterol) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์และเป็นตัวตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิดในร่างกาย โคเลสเตอรอลคืออะไร? โคเลสเตอรอลเป็นสารไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถผลิตได้เองในตับ และยังสามารถรับจากอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ และผลิตภัณฑ์นม โคเลสเตอรอลในร่างกายแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่: โคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL - High-Density Lipoprotein) : ทำหน้าที่ขนส่งโคเลสเตอรอลส่วนเกินจากเนื้อเยื่อต่างๆ กลับไปยังตับเพื่อกำจัด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL - Low-Density Lipoprotein) : ทำหน้าที่ขนส่ง...

Precision medicine หรือการแพทย์แม่นยำ คืออะไร

  Precision Medicine หรือการแพทย์แม่นยำ คืออะไร? การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) เป็นแนวทางทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการดูแลและรักษาผู้ป่วยโดยคำนึงถึงความแตกต่างเฉพาะบุคคลของพันธุกรรม สภาพแวดล้อม และวิถีชีวิตของแต่ละบุคคล แนวคิดนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความผิดพลาดในการรักษา และเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล โดยต่างจากการแพทย์แบบดั้งเดิมที่มักใช้วิธีการรักษาแบบเดียวกันสำหรับผู้ป่วยทุกคนที่มีอาการคล้ายกัน องค์ประกอบสำคัญของการแพทย์แม่นยำ พันธุกรรม (Genomics): การศึกษาพันธุกรรมเป็นส่วนสำคัญใน Precision Medicine โดยการตรวจสอบ DNA ของผู้ป่วยสามารถช่วยระบุความเสี่ยงในการเกิดโรค หรือทำนายการตอบสนองต่อยา ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ในยีน BRCA1 หรือ BRCA2 จะมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมและรังไข่ ซึ่งข้อมูลนี้ช่วยให้แพทย์สามารถกำหนดแผนการตรวจคัดกรองและการป้องกันโรคที่เหมาะสมได้ ข้อมูลสภาพแวดล้อม: ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มลภาวะ สารเคมีในสิ่งแวดล้อม หรืออาหารที่รับประทาน มีผลต่อสุขภาพ การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกับข้อมูลพันธุก...

ลำดับการเจาะเก็บเลือดใส่หลอด (order of blood draw) มีความสำคัญอย่างไร

ลำดับการเจาะเก็บเลือดใส่หลอด (Order of Blood Draw) การเจาะเก็บเลือดเพื่อการตรวจวินิจฉัยเป็นขั้นตอนที่สำคัญในงานทางการแพทย์ การปฏิบัติที่ถูกต้องช่วยให้ได้ตัวอย่างที่มีคุณภาพ ลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนระหว่างหลอดเก็บเลือด และเพิ่มความแม่นยำของผลการตรวจ ลำดับการเจาะเก็บเลือดได้รับการกำหนดโดยมาตรฐานสากล เช่น จาก Clinical and Laboratory Standards Institute (CLSI) ซึ่งมีเหตุผลเพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารเติม (additives) ในหลอดต่างๆ ต่อไปนี้คือลำดับและรายละเอียดของหลอดเก็บเลือด: 1. หลอดสำหรับการเพาะเชื้อ (Blood Culture Bottles) ลักษณะ: ขวดสำหรับเก็บตัวอย่างเลือดในระบบปลอดเชื้อ เหมาะสำหรับตรวจ: การตรวจการติดเชื้อในกระแสเลือด (bacteremia/septicemia) เหตุผล: การเพาะเชื้อจำเป็นต้องได้ตัวอย่างที่ปลอดจากการปนเปื้อนสารอื่นๆ ก่อนเก็บตัวอย่างในหลอดอื่น 2. หลอดสีฟ้าใส่สารโซเดียมซิเตรต (Light Blue Top) ลักษณะ: มีสารโซเดียมซิเตรต (3.2% หรือ 3.8%) เหมาะสำหรับตรวจ: การแข็งตัวของเลือด (Coagulation tests) เช่น PT, APTT, INR เหตุผล: สารโซเดียมซิเตรตทำหน้าที่จับแคลเซียมในเลือดเพื่อป้องกันการแข็งตัว 3. หลอด...

การตรวจสุขภาพประจำปีเบื้องต้น ต้องตรวจอะไรบ้าง

  การตรวจสุขภาพประจำปีเบื้องต้น ต้องตรวจอะไรบ้าง? การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณทราบและติดตามสุขภาพของตัวเอง เพื่อป้องกันการเกิดโรคและตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้น การตรวจสุขภาพเบื้องต้นมักครอบคลุมการตรวจร่างกายทั่วไปและการตรวจในห้องปฏิบัติการทางการเพทย์ ซึ่งอาจแตกต่างกันตามช่วงอายุ เพศ และปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล ดังนี้: การตรวจสุขภาพเบื้องต้นทั่วไป ซักประวัติสุขภาพ ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต โรคประจำตัว ประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคต่างๆ การตรวจร่างกายทั่วไป การวัดความดันโลหิต การตรวจน้ำหนักและส่วนสูง การตรวจชีพจร การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจเลือด เช่น ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar) ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol, Triglycerides, HDL, LDL) ตรวจการทำงานของตับและไต (Liver Function Test, Kidney Function Test) การตรวจปัสสาวะ การตรวจอุจจาระ (ในบางกรณี) การตรวจเอกซเรย์ทรวงอก เพื่อประเมินความผิดปกติของปอดและหัวใจ การเตรียมตัวก่อนการตรวจสุขภาพ งดอาหารและเครื่องดื่ม งดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนการตรวจเลือด งดแอลกอฮอล์และบุหรี่...