ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

ลำดับการเจาะเก็บเลือดใส่หลอด (order of blood draw) มีความสำคัญอย่างไร

ลำดับการเจาะเก็บเลือดใส่หลอด (Order of Blood Draw) การเจาะเก็บเลือดเพื่อการตรวจวินิจฉัยเป็นขั้นตอนที่สำคัญในงานทางการแพทย์ การปฏิบัติที่ถูกต้องช่วยให้ได้ตัวอย่างที่มีคุณภาพ ลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนระหว่างหลอดเก็บเลือด และเพิ่มความแม่นยำของผลการตรวจ ลำดับการเจาะเก็บเลือดได้รับการกำหนดโดยมาตรฐานสากล เช่น จาก Clinical and Laboratory Standards Institute (CLSI) ซึ่งมีเหตุผลเพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารเติม (additives) ในหลอดต่างๆ ต่อไปนี้คือลำดับและรายละเอียดของหลอดเก็บเลือด: 1. หลอดสำหรับการเพาะเชื้อ (Blood Culture Bottles) ลักษณะ: ขวดสำหรับเก็บตัวอย่างเลือดในระบบปลอดเชื้อ เหมาะสำหรับตรวจ: การตรวจการติดเชื้อในกระแสเลือด (bacteremia/septicemia) เหตุผล: การเพาะเชื้อจำเป็นต้องได้ตัวอย่างที่ปลอดจากการปนเปื้อนสารอื่นๆ ก่อนเก็บตัวอย่างในหลอดอื่น 2. หลอดสีฟ้าใส่สารโซเดียมซิเตรต (Light Blue Top) ลักษณะ: มีสารโซเดียมซิเตรต (3.2% หรือ 3.8%) เหมาะสำหรับตรวจ: การแข็งตัวของเลือด (Coagulation tests) เช่น PT, APTT, INR เหตุผล: สารโซเดียมซิเตรตทำหน้าที่จับแคลเซียมในเลือดเพื่อป้องกันการแข็งตัว 3. หลอด...

การตรวจสุขภาพประจำปีเบื้องต้น ต้องตรวจอะไรบ้าง

  การตรวจสุขภาพประจำปีเบื้องต้น ต้องตรวจอะไรบ้าง? การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณทราบและติดตามสุขภาพของตัวเอง เพื่อป้องกันการเกิดโรคและตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้น การตรวจสุขภาพเบื้องต้นมักครอบคลุมการตรวจร่างกายทั่วไปและการตรวจในห้องปฏิบัติการทางการเพทย์ ซึ่งอาจแตกต่างกันตามช่วงอายุ เพศ และปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล ดังนี้: การตรวจสุขภาพเบื้องต้นทั่วไป ซักประวัติสุขภาพ ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต โรคประจำตัว ประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคต่างๆ การตรวจร่างกายทั่วไป การวัดความดันโลหิต การตรวจน้ำหนักและส่วนสูง การตรวจชีพจร การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจเลือด เช่น ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar) ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol, Triglycerides, HDL, LDL) ตรวจการทำงานของตับและไต (Liver Function Test, Kidney Function Test) การตรวจปัสสาวะ การตรวจอุจจาระ (ในบางกรณี) การตรวจเอกซเรย์ทรวงอก เพื่อประเมินความผิดปกติของปอดและหัวใจ การเตรียมตัวก่อนการตรวจสุขภาพ งดอาหารและเครื่องดื่ม งดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนการตรวจเลือด งดแอลกอฮอล์และบุหรี่...

ตรวจไขมันในเลือด ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง

 ตรวจไขมันในเลือด ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง? การตรวจไขมันในเลือดเป็นหนึ่งในวิธีสำคัญที่ช่วยประเมินความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด การตรวจนี้สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับไขมันในเลือดของคุณได้ เช่น คอเลสเตอรอลชนิดต่างๆ และไตรกลีเซอไรด์ เพื่อให้ผลการตรวจมีความถูกต้องแม่นยำ การเตรียมตัวเองให้ถูกวิธีก่อนได้รับตรวจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรรู้และปฏิบัติตามก่อนเข้ารับการตรวจไขมันในเลือด: 1. งดอาหารและเครื่องดื่ม ในกรณีที่ต้องตรวจระดับไขมันอย่างละเอียด เช่น LDL-C, HDL-C, และไตรกลีเซอไรด์ แพทย์อาจแนะนำให้งดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) เป็นเวลา 8-12 ชั่วโมงก่อนการตรวจ การงดอาหารช่วยลดผลกระทบจากอาหารที่เพิ่งบริโภคต่อระดับไขมันในเลือด ทำให้ผลการตรวจแม่นยำมากขึ้น 2. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจ เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ 3. งดกิจกรรมหนัก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในวันก่อนตรวจ เพราะอาจส่งผลต่อระดับไขมันในเลือด 4. แจ้งข้อมูลยาที่รับประทาน หากคุณกำลังใช้ยา วิตาม...

การประยุกต์ใช้ AI Applications สำหรับนักเทคนิคการแพทย์

การใช้ AI Applications สำหรับนักเทคนิคการแพทย์ ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ทั่วโลก ซึ่งการใช้งาน AI Applications เช่น ChatGPT, Perplexity และ Microsoft Copilot จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของนักเทคนิคการแพทย์ได้อย่างมาก นักเทคนิคการแพทย์ที่สามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ก็จะทำให้เราได้เปรียบในการทำงานได้เช่นกัน วันนี้ผมก็จะมาสรุปสาระสำคัญเป็นตัวอย่างคร่าว ๆ  ให้พวกเราได้ทราบกันครับ 1. ChatGPT ChatGPT เป็นโมเดล AI ที่พัฒนาโดยบริษัท OpenAI  จากประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีความสามารถในการประมวลผลทางภาษาและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว นักเทคนิคการแพทย์สามารถใช้ ChatGPT โดยสามารถนำมาใช้ในงานเทคนิคการแพทย์ได้ดังนี้ • ค้นหาข้อมูลทางการแพทย์: สามารถสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทางการแพทย์หรือวิจัยล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการได้ • สรุปบทความ: ช่วยในการสรุปข้อมูลจากเอกสารหรือบทความทางวิจัย เพื่อให้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น • สร้างคำถามและคำตอบ: ใช้ในการเตรียมคำถามสำหรับการสัมภาษณ์หรือ...

เชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (hMPV)

เชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (hMPV) ฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (Human Metapneumovirus, hMPV) เป็นไวรัสที่อยู่ในกลุ่ม Paramyxoviridae ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหัดและโรคหัดเยอรมัน โดย hMPV ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2001 และได้รับการยอมรับว่าเป็นสาเหตุสำคัญของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในมนุษย์ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาการของการติดเชื้อ hMPV อาการของการติดเชื้อ hMPV มักจะคล้ายคลึงกับการติดเชื้อทางเดินหายใจอื่น ๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่หรือ RSV (Respiratory Syncytial Virus) โดยทั่วไปแล้วจะมีอาการดังนี้: - ไข้: อาจมีไข้สูงหรือไข้ต่ำ - ไอ: ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ - น้ำมูก: น้ำมูกใสหรือข้น - เจ็บคอ: อาจรู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองที่ลำคอ - หายใจลำบาก: ในบางกรณี อาจมีอาการหายใจลำบากหรือเสียงหวีดขณะหายใจ - ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ: อาจรู้สึกไม่สบายตัวทั่วไป โดยทั่วไปแล้ว อาการจะเริ่มปรากฏภายใน 3-7 วันหลังจากได้รับเชื้อ และมักจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการฟื้นตัว แต่ในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังหรือผู้สูงอายุ อาการอาจรุนแรงขึ้นและต้องการการดูแลทางการแพทย์ การแพร่กระจายขอ...

บทบาทของนักเทคนิคการแพทย์ในปี 2025

บทบาทของนักเทคนิคการแพทย์ในปี 2025 มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของระบบสาธารณสุขและเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ หลังจากที่เทคนิคการแพทย์ได้เข้ามามีบทบาทและมีการรับรู้ในส่วนภาคประชาชนอย่างมากในช่วงของการระบาดของโควิดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการพัฒนาของวงการเทคนิคการแพทย์ก็ยังมีอย่างต่อเนื่องและมีเรื่องราวใหม่ๆ เข้ามา การวิเคราะห์และการวินิจฉัย นักเทคนิคการแพทย์ในปี 2025 มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์และการวินิจฉัยโรคด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง การตรวจเลือด การตรวจปัสสาวะ การตรวจโรคด้วย DNA และการตรวจทางจุลชีววิทยา ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้นักเทคนิคการแพทย์สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วแก่แพทย์และผู้ป่วยได้ การใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องจักรเรียนรู้ (Machine Learning) เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานของนักเทคนิคการแพทย์ในปี 2025 นักเทคนิคการแพทย์จะต้องมีความรู้และทักษะในการใช้โปรแกรมและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การค...

จีโนมมนุษย์ (Human genome) คืออะไร

จีโนมมนุษย์ (Human Genome) คือชุดของข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมดที่ประกอบขึ้นเป็นรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ ซึ่งรวมถึงยีนและส่วนที่ไม่ใช่ยีนที่มีอยู่ในดีเอ็นเอ (DNA) ของเรา จีโนมนี้เป็นพิมพ์เขียวที่กำหนดลักษณะทางกายภาพและการทำงานของร่างกายมนุษย์ เช่น รูปร่าง สีผิว และความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ จีโนมมนุษย์เป็นแผนที่พันธุกรรมที่บรรจุข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต พัฒนา และทำงานของร่างกายมนุษย์ โครงสร้างหลักของจีโนมมนุษย์ประกอบด้วยดีเอ็นเอ (DNA) ที่เรียงตัวเป็นเกลียวคู่ (double helix) ซึ่งประกอบด้วยนิวคลีโอไทด์สี่ชนิด ได้แก่ อะดีนีน (A), ไทมีน (T), ไซโทซีน (C) และกวานีน (G) โดยจับคู่กันในลักษณะ A-T และ C-G สร้างเป็นโครงสร้างที่มั่นคงและสามารถถ่ายทอดข้อมูลทางพันธุกรรมได้อย่างแม่นยำ โครงสร้างของจีโนมมนุษย์ • จำนวนโครโมโซม: มนุษย์มีโครโมโซมทั้งหมด 46 ชิ้น หรือ 23 คู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโครโมโซมเพศที่กำหนดเพศของบุคคล • ขนาด: จีโนมมนุษย์มีขนาดประมาณ 3 พันล้านคู่เบส (base pairs) ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานที่ประกอบขึ้นเป็นดีเอ็นเอ ความสำคัญของจีโนม การศึกษาจีโนมมีความสำคัญอย่างมากในหลายด้าน: ...

การตรวจน้ำตาลด้วยการปลายนิ้ว กับการเจาะเส้นเลือดต่างกันอย่างไร (Capillary vs Venous blood glucose)

การเจาะเลือดเพื่อตรวจน้ำตาล เป็นวิธีที่ใช้ในการวินิจฉัย และติดตามผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งคนปกติ และผู้ที่ตั้งครรภ์ ในปัจจุบันการตรวจเราจะพบได้ 2 ลักษณะ ได้แก่การตรวจผ่านการเจาะที่ปลายนิ้วและทราบผลในทันที กับการเจาะเลือดที่เส้นเลือดทั้งข้อพับ และหลังมือ (เจาะใส่หลอดเลือด) ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าทั้งสองวิธีที่นี้ต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ 2 วิธีนี้กันครับ (ในบทความนี้พูดถึงความแตกต่างของการตรวจค่าน้ำตาลผ่านปลายนิ้ว และเส้นเลือดครับ ไม่ได้หมายถึงวิธีการเตรียมตัวเพื่อตรวจเลือด อย่างการกินน้ำตาล การกินอาหาร 2 ชม และเจาะเลือดนะครับ อย่าสับสน) 1. การตรวจค่าน้ำตาลปลายนิ้ว (Capillary blood glucose) วิธีการ: ใช้เข็มเจาะที่ปลายนิ้วเพื่อเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอย โดยเลือดจะถูกนำไปวัดด้วยเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลที่พกพาได้ • ข้อดี:  ผลรวดเร็ว สามารถทราบผลได้ทันทีหลังจากการเจาะ. ไม่ต้องอดอาหารก่อนตรวจ ทำให้สะดวกสำหรับผู้ป่วย • ข้อจำกัด:  ผลอาจมีความคลาดเคลื่อนสูงกว่าการเจาะเลือดจากเส้นเลือด โดยอาจมีความแตกต่างประมาณ 15-20 mg/dL เหมาะสำหรับการติดตามระ...

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) จากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2 virus) หรือโควิด

โรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา (COVID-19) โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด (COVID-19) คือ โรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ โคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ Severe Acute Respiratory Syndrome-Coronavirus-2 ( SARS-CoV-2 ) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในกลุ่มไวรัสโคโรนา ที่สามารถก่อโรคได้ตั้งแต่ไข้หวัดที่มีอาการธรรมดาไปจนถึงอาการรุนแรง ตัวอย่างของไวรัสในกลุ่มโคโรนาได้แก่   Middle East Respiratory Syndrome หรือ MERS-CoV ที่เคยระบาดในไทยก่อนหน้านี้  และ  Severe Acute Respiratory Syndrome (SARS-CoV) ที่เป็นสายพันธุ์ที่มีมาก่อน  ไวรัส COVID-19 หรือ SARS-CoV-2 มีลักษณะทางชีววิทยาที่สำคัญดังนี้: โครงสร้างทางชีววิทยา • จีโนม: SARS-CoV-2 มีจีโนมเป็น RNA ขนาดประมาณ 29,903 คู่เบส ซึ่งมีลำดับพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกับไวรัส SARS-CoV ร้อยละ 79.57 และกับไวรัสที่พบในค้างคาว (RatG13) ร้อยละ 96.11 • โปรตีนโครงสร้าง: ไวรัสประกอบด้วยโปรตีนโครงสร้างหลัก 4 ชนิด ได้แก่: • โปรตีนหนาม (Spike protein): ทำหน้าที่ในการยึดเกาะและเข้าสู่เซลล์เจ้าบ้าน โดยจับกับตัวรับ ACE2 บนเยื่อหุ้มเซลล์...

ไวรัสตับอักเสบบี และการตรวจหาเชื้อและภูมิต่อไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B blood tests)

ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)      ไวรัสตับอักเสบบีเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่ตับชนิดรุนแรงที่พบบ่อยที่สุดในโลกโดยมากกว่า 2 พันล้านคนหรือ 1 ใน 3 ของประชากรโลกมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และในทุกปีมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีสูงถึง 1 ล้านคนถึงแม้ว่าในปัจจุบันเราจะมีวิธีป้องกันและรักษาการติดเชื้อไวรัสนี้แล้วก็ตาม การระบาดของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะเป็นในลักษณะ silent epidemic เพราะคนส่วนจะไม่แสดงอาการผิดปกติเมื่อมีการติดเชื้อ หรือมีการติดเชื้อแบบเรื้อรัง (chronically infected) ทำให้คนกลุ่มนี้มีการแพร่เชื้อไปสุ่คนอื่นโดยที่ไม่รู้ตัว      ไวรัสตับอักเสบบีเป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านทางเลือด และสารคัดหลั่งต่าง ๆ (body fluids) ซึ่งเกิดจากความเสี่ยงจากการสัมผัสเลือด การมีเพศสัมพันธุ์แบบไม่ป้องกัน การใช้สารเสพติดผ่านเข็มที่ไม่สะอาดหรือมีการใช้ซ้ำ และยังสามารถติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ตอนตั้งครรภ์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามไวรัสตับอักเสบบีนั้นมีวิธีป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนในผู้ที่ไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อน ซึ่งในปัจจุบันเราใช้วิธีการตรวจเลือด (blood test) เพื่อวินิจฉัยว่าในตั...

การตรวจน้ำตาลปลายนิ้วคืออะไร และวิธีการทำด้วยตนเองทำอย่างไร

การตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว คืออะไร        การตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว คือ การวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เรียกว่า glucometer หรือ เครื่องตรวจน้ำตาลชนิดพกพา โดยใช้เลือดเพียงหยอดเดียวจากการเจาะที่ปลายนิ้วครับ โดยวิธีนี้เราสามารถทำการตรวจได้ด้วยตนเองที่บ้านเพียงแค่มีชุดอุปกรณ์ glucometer ที่ในปัจจุบันเราสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือร้านขายยาทั่วไป ราคาเริ่มตั้งแต่พันต้น ๆ ครับ ตรวจน้ำตาลปลายนิ้วมีประโยชน์อย่างไร ?        วิธีการตรวจน้ำตาลปลายนิ้วถูกพัฒนาจนมีความแม่นยำ และน่าเชื่อถือสูงไกล้เคียงกับการตรวจโดยห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เลยทีเดียวครับ ซึ่งประโยชน์ของการตรวจน้ำตาลปลายนิ้วจริง ๆ คือความสะดวก และสามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือตัวผู้ป่วยเองที่บ้าน เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานติดตามการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของตนเองจากปัจจัยต่าง ๆ เช่นการรับประทานอาหาร หรือ การฉีดฮอร์โมนอินซูลิน นอกจากผู้ป่วยเบาหวานแล้ว ผู้ที่พบว่ามีอาการผิดปกติจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ และสูงอยู่บ่อยครั้ง ก็สามารถใช้วิธีการเจาะตรวจน้ำตาลปลายนิ้วเพื่อติดตาม...

การตรวจเลือดดูการทำงานของไต (Renal Function Test)

From : Wikimedia Commons        ไต เป็นอวัยวะมีหน้าที่หลักในการกรองของเสีย และรักษาดุลยภาพของสารในร่างกายตัวอย่างเช่น เกลือแร่ (โซเดียม และโพแทสเซียม) ความผิดปกติของไตจะส่งผลให้การทำหน้าที่หลักของไตลดลงตั้งแต่ระดับเบื้องต้น เสื่อมสภาพเรื้อรัง จนถึงการวายของไตอย่างเฉียบพลัน ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้จะส่งผลต่อค่าสารในร่างกายทำให้มีระดับที่สูง หรือต่ำกว่าปกติ         ในปัจจุบันการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อประเมิณการทำงานของไตก็ได้แก่การตรวจเลือดหาค่า BUN, Creatinine และ Glomerular filtration rate (GFR) และการตรวจปัสสาวะ(Urine analysis) 1. Blood Urea Nitrogen (BUN)      BUN เป็นของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย และจะถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านทางไต เมื่อปริมาณ BUN ในเลือดสูงขึ้นอาจเปิดจากการกำจัดสารออกจากร่างกายได้ไม่ดี หรือการทำงานของไตมีปัญหานั่นเอง        ค่าปกติ  : 7 - 25 mg/dl           ค่าสูง      การทำงานของไตผิดปกติ หรือการรับประทานอาหารปร...

การตรวจเลือดดูการทำงานของตับ (Liver function test)

         ตับ (liver) เป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งในร่างกายมีหน้าที่ในการกำจัดสารพิษที่อันรายต่อร่างกาย รวมถึงยาต่าง ๆ ที่ร่างกายได้รับส่วนเกินก็จะถูกกำจัดออกโดยตับ นอกจากนั้นตับยังมีหน้าที่ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการสังเคราะห์โปรตีน เอนไซม์ หรือไขมัน      การตรวจการทำงานของตับ หรือ Liver function test คือการตรวจเพื่อ ตรวจวินิจฉัย ประเมิณ หรือติดตามการรักษาโรคตับ (liver diseases) หรือการอักเสบของเนื้อเยื่อตับจากปัจจัยต่างๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบ พิษสุราเรื้อรัง และการได้รับยาอย่างต่อเนื่องในปริมาณมาก ๆ ซึ่งการตรวจก็สามารถตรวจได้จากเจาะเลือดตรวจสารบ่งชี้ความผิดปกติ เพื่อประเมิณเบื้องต้นได้ โดยในการตรวจกลุ่มนี้ก็จะประกอบด้วยสารบ่งชี้หลายชนิดด้วยกัน ได้แก่ 1. Alanine aminotransferase (ALT)       ALT หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Serum Glutamic Pyruvic Transaminase (SGPT) เป็นเอนไซม์ตัวหลักที่พบได้ในตับ ดังนั้นเมื่อเกิดความผิดปกติของตับจึงทำให้สามารถตรวจพบ ALT สูงขึ้นมากกว่าปกติในเลือดได้ และ ALT ถือเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีสำหรับการตรวจประเมิณก...

ภาวะไขมันในเลือดสูง (hyperlipidemia) กับความเสี่ยงโรคหัวใจและเส้นเลือดตีบตัน

       ปัจจุบันไขมันเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่สำคัญของโรคหัวใจ (heart disease) โดยในการตรวจสุขภาพประจำปีก็มักจะมีการตรวจไขมันร่วมด้วยทุกครั้ง เราคงคุ้นเคยกับ cholesterol เป็นอย่างดี แต่บางท่านเมื่อไปตรวจสุขภาพ หรืออ่านเจอในบทความต่างๆ คงได้ยินคำว่า ไขมันดี หรือ HDL-c และไขมันเสีย หรือ LDL-c มาบ้าง วันนี้เลยจะมากล่าวถึงชนิดของไขมัน และความเสี่ยงเมื่อมีไขมันในเลือดสูงกันครับ        ไขมัน (lipid) เป็นสารชีวโมเลกุลชนิดหนึ่งที่สำคัญอย่างมากในร่างกายเรา ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบหลักของเยื่อหุ้มเซลล์ในร่างกาย และกักเก็บเป็นแหล่งพลังงานสำรองของร่างกาย ไขมันถือเป็นสารชีวโมเลกุลสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้เลยทีเดียว ไขมันกลุ่มที่สำคัญที่ใช้ในการบ่งชี้ทางการแพทย์คือไขมันกลุ่มที่อยู่ในเลือดของเรา โดยไขมันในเลือดที่มีปริมาณมากเกินไปย่อมส่งผลเกิดการสะสมไขมันในผนังหลอดเลือดจนเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว และมีความเสี่ยงของโรคหัวใจ  โดยไขมันในเลือดที่ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดทางการแพทย์ก็จะมีอยู่ 4 ได้แก่ คลอเลสเตอรอล (cholesterol)  ไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ไขมันเ...

การงดน้ำ และอาหารก่อนเจาะเลือดทำอย่างไร

การงดน้ำ และอาหารก่อนเจาะเลือด (Fasting before blood tests)           ในปัจจุบันการตรวจเลือดเป็นวิธีพื้นฐานทางการแพทย์ที่จะใช้ในการวินิจฉัย ประเมิน และติดตามการรักษาโรค   ซึ่งในการตรวจเลือดบางรายการเช่น น้ำตาลและไขมันนั้น สารอาหารที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดจะทำให้ค่าการตรวจเลือดผิดพลาดได้ จึงจำเป็นที่จะต้องทำการงดน้ำ และอาหารข้ามคืนก่อนที่จะดำเนินการเจาะเลือดเพื่อตรวจในห้องปฏิบัติการ   โดยคำถามที่มักพบสำหรับผู้ป่วยที่อาจไม่ทราบมาก่อนว่าต้องงดอย่างไร ระยะเวลาเท่าไหร่ ทำไมบางครั้งอดในระยะเวลาที่ไม่เท่ากัน หรือบางครั้งไม่ต้องอดอาหารเลย ซึ่งทั้งหมดมีคำตอบให้ในบทความนี้ครับ           วิธีปฏิบัติสำหรับการงดน้ำ และอาหารก่อนเจาะเลือด           การอด หรืองดอาหาร หมายถึงห้ามกินอาหารชนิดใด ๆ เลย รวมถึงลูกอม น้ำหวาน น้ำผลไม้ กาแฟ และอื่นๆ ที่มีรสชาติ สิ่งเดียวที่สามารถทานได้คือ น้ำเปล่า เท่านั้นครับ เพราะสารอาหารเหล่านี้จ...