ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การประยุกต์ใช้ AI Applications สำหรับนักเทคนิคการแพทย์

การใช้ AI Applications สำหรับนักเทคนิคการแพทย์

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ทั่วโลก ซึ่งการใช้งาน AI Applications เช่น ChatGPT, Perplexity และ Microsoft Copilot จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของนักเทคนิคการแพทย์ได้อย่างมาก นักเทคนิคการแพทย์ที่สามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ก็จะทำให้เราได้เปรียบในการทำงานได้เช่นกัน วันนี้ผมก็จะมาสรุปสาระสำคัญเป็นตัวอย่างคร่าว ๆ  ให้พวกเราได้ทราบกันครับ




1. ChatGPT

ChatGPT เป็นโมเดล AI ที่พัฒนาโดยบริษัท OpenAI  จากประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีความสามารถในการประมวลผลทางภาษาและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว นักเทคนิคการแพทย์สามารถใช้ ChatGPT โดยสามารถนำมาใช้ในงานเทคนิคการแพทย์ได้ดังนี้

ค้นหาข้อมูลทางการแพทย์: สามารถสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทางการแพทย์หรือวิจัยล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการได้

สรุปบทความ: ช่วยในการสรุปข้อมูลจากเอกสารหรือบทความทางวิจัย เพื่อให้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น

สร้างคำถามและคำตอบ: ใช้ในการเตรียมคำถามสำหรับการสัมภาษณ์หรือการศึกษาเพิ่มเติม หรือเพื่อเตรียมตัวสำหรับการให้คำแนะนำผู้ป่วย หรือปรึกษาผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการกับพยาบาลหรือแพทย์ได้

2. Perplexity

Perplexity เป็นอีกหนึ่ง AI Application ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการค้นหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

การค้นหาข้อมูลที่แม่นยำ: สามารถค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และให้คำตอบที่ตรงกับคำถาม

สร้างตารางข้อมูล: ช่วยในการจัดระเบียบข้อมูลในรูปแบบตาราง ทำให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบและวิเคราะห์.

สนทนาอย่างต่อเนื่อง: สามารถสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อทางการแพทย์ได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและละเอียด.

3. Microsoft Copilot

Microsoft Copilot เป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนงานด้านเอกสารและการจัดการข้อมูลในคลินิก โดยเฉพาะในการบันทึกข้อมูลทางคลินิก ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ได้แก่:

บันทึกข้อมูลอัตโนมัติ: ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการบันทึกเอกสารทางคลินิก โดยสามารถแปลงบทสนทนากับผู้ป่วยเป็นเอกสารได้อัตโนมัติ

ปรับปรุงคุณภาพเอกสาร: ทำให้เอกสารมีความถูกต้องและครบถ้วนมากขึ้น ช่วยลดภาระงานของนักเทคนิคการแพทย์.

โดยสรุปแล้ว

AI Applications อย่าง ChatGPT, Perplexity และ Microsoft Copilot มีศักยภาพในการช่วยนักเทคนิคการแพทย์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล การวิเคราะห์ หรือการจัดระเบียบเอกสาร ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระงาน แต่ยังเพิ่มความแม่นยำในการทำงานอีกด้วย การนำ AI มาใช้ในวงการแพทย์จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นพันธมิตรที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพบริการทางสุขภาพในอนาคต 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลอดใส่เลือดมี่กี่ชนิด (tube เลือดมี่กี่ชนิด)

        หลาย ๆ ท่านอาจสงสัยนะครับว่าเวลามีนัดต้องไปพบแพทย์ และเมื่อถึงเวลาเจาะเลือด ทำไมถึงต้องเก็บเลือดเราไปทีละหลาย ๆ หลอดและในการนัดแต่ละครั้งก็มีการเจาะเลือดไปไม่เหมือนเดิมกับครั้งก่อน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันครับว่าหลอดใส่เลือดแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร         ปัจจุบันในทางการแพทย์หลอดสำหรับเก็บตัวอย่างเลือดนั้นถูกพัฒนามาหลายรูปแบบด้วยกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพสำหรับตรวจทางห้องปฏิบัติการรวมถึงระยะในการเก็บรักษาตัวอย่างเลือดให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์ของการตรวจทางห้องปฏิบัติการครับ สำหรับในวันนี้จะพามาทำความรู้จักกับหลอดเลือดพื้นฐานที่ใช้ในการตรวจประจำของโรงพยาบาลโดยทั่วไปครับ  สิ่งที่อยู่ในหลอดเลือดแต่ละสี        สิ่งที่อยู่ข้างในหลอดเลือดสีต่าง ๆ คือ สารเคมีที่ป้องกันการแข็งตัวของเลือด (สารกันเลือดแข็ง) โดยในหลอดแต่ละสีก็จะมีสารกันเลือดแข็งคนละชนิดกันครับ ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้สารกันเลือดแข็งหลายชนิด ไม่สามารถใช้ชนิดเดียว หรือหลอดเดียวสำหรับารตรวจได้ทั้งหมดก็เพราะว่าส...

DNA ตอนที่ 1 : DNA คืออะไร และโครงสร้างของ DNA

สารพันธุกรรม (genetic materials) ห มายถึงสารที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งสิ่งมีชีวิตระดับโปรคาริโอต (prokaryote) และยูคาริโอต (eukaryote) โดยสารพันธุกรรมประกอบด้วย ดีเอ็นเอ (deoxyribonucleic acid หรือ DNA) และอาร์เอ็นเอ (ribonucleic acid หรือ RNA) การเก็บรักษาข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเกิดจากการเรียงลำดับของหน่อยย่อยที่สุดของ DNA และ RNA อย่างเป็นระเบียบและมีความหมาย ซึ่งหน่อยย่อยของดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอเราเรียกว่า นิวคลีโอไทด์ (nucleotide) สิ่งมีชีวิตจะทำการแปลรหัสข้อมูลนิวคลีโอไทด์เหล่านี้ออกมาเป็นโปรตีนเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ ของเซลล์หรือร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่อไปผ่านการทำงานร่วมกันตั้งแต่ DNA RNA ไปจนถึงขั้นตอนการสั่งเคราะห์โปรตีน อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตบางประเภทจะเก็บข้อมูลพื้นฐานของตัวเองในรูปแบบของ RNA เท่านั้น เช่นไวรัสในกลุ่มรีโทรไวรัส หรือที่เรารู้จักกันดีก็คือไวรัสโควิด ภาพที่ 1 แสดงโครงสร้างจำลองของ DNA ที่มาภาพ : http://becuo.com/red-dna-wallpaper   DNA (deoxyribonucleic acid )                  D...

ความแตกต่างระหว่าง Leukemoid Reaction และ Chronic myeloid leukemia (CML)

***แก้ไขหน่วยในภาพ cell/ml เป็น cell/ul Leukemoid Reaction (LR) คือ ภาวะหนึ่งที่ร่างกายมีการสร้างเม็ดเลือดขาวออกมาในปริมาณมาก (>50,000 cell/ul) เพื่อตอบสนองต่อ ภาวะความผิดปกติบางอย่าง เช่นภาวะการติดเชื้ออย่างรุนแรง (severe infection)  เม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้นผิดปกติจำนวนมากจะเป็น mature cells  แต่ก็อาจพบเม็ดเลือดขาวระยะตัวอ่อนได้บ้างซึ่งการที่เราพบเม็ดเลือดตัวอ่อนในเลือดจะเรียกว่า Shift to the left  โดยเมื่อส่องดูเสมียร์เลือด (blood smear) ด้วยกล้องจุลทรรศน์แล้วจะพบว่ามีลักษณะที่คล้ายกับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Chronic myeloid leukemia (CML) แต่ก็มีลักษณะที่สามารถทำให้แยกออกจากกันได้ครับโดยการวินิจฉัย LR นั้นจะเป็น exclusion criteria ของมะเร็งเม็ดเลือดขาว CML เช่น ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง เกร็ดเลือด และชนิดของเม็ดเลือดขาวตัวเต็มวัย หรือการเพิ่มขึ้นของค่า  Leukocyte alkaline phosphatase (LAP)  ใน LR Chronic myeloid leukemia (CML) เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวในสาย myeloid ชนิดเรื้องรัง โดยผู้ป่วย CML ส่วนใหญ่มีสาเหตุการเกิดโรคมาจากการกลายพั...