ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Phamacogenomics คืออะไร

 Pharmacogenomics คืออะไร

Pharmacogenomics หรือ เภสัชพันธุศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ผสมผสานระหว่างพันธุศาสตร์ (Genomics) และเภสัชวิทยา (Pharmacology) เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจผลกระทบของพันธุกรรมต่อการตอบสนองต่อยาในแต่ละบุคคล เป้าหมายหลักคือการพัฒนาการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นโดยปรับให้เหมาะสมกับลักษณะทางพันธุกรรมของผู้ป่วยแต่ละราย


หลักการของ Pharmacogenomics

Pharmacogenomics อาศัยความรู้เกี่ยวกับลำดับ DNA และการแปรผันทางพันธุกรรม เช่น การเกิด Single Nucleotide Polymorphisms (SNPs) หรือการเปลี่ยนแปลงของยีนที่มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์ เมแทบอลิซึม และโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึม กระจายตัว และการกำจัดยา ยกตัวอย่างเช่น:

  • ยีน CYP450 (Cytochrome P450): มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญยา เช่น CYP2D6, CYP3A4 และ CYP2C19 การแปรผันในยีนเหล่านี้อาจส่งผลต่อการเผาผลาญยาช้าหรือเร็วเกินไป

  • ยีน VKORC1 และ CYP2C9: เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin)

  • HLA-B*57:01: การตรวจหายีนนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแพ้ยา Abacavir ที่ใช้รักษา HIV


ประโยชน์ของ Pharmacogenomics

  1. การรักษาที่แม่นยำและเฉพาะบุคคล
    – ลดการทดลองและความผิดพลาด (Trial-and-error) ในการหายาที่เหมาะสม
    – เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาด้วยการเลือกยาที่เหมาะกับพันธุกรรมของผู้ป่วย

  2. ลดผลข้างเคียงจากยา
    – ช่วยหลีกเลี่ยงยาและขนาดยาที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงในผู้ป่วยบางราย

  3. ปรับปรุงคุณภาพชีวิตผู้ป่วย
    – ผู้ป่วยสามารถใช้ยาที่เหมาะสมกับร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. การพัฒนาและออกแบบยาใหม่
    – ช่วยให้บริษัทเภสัชกรรมพัฒนายาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มพันธุกรรมต่าง ๆ


ตัวอย่างการใช้งาน Pharmacogenomics ในทางการแพทย์

  1. มะเร็ง: การใช้ยาต้านมะเร็งที่เหมาะกับโปรไฟล์ทางพันธุกรรม เช่น Trastuzumab (Herceptin) สำหรับผู้ป่วยที่มียีน HER2 บางชนิด

  2. โรคหัวใจและหลอดเลือด: การเลือกขนาดยา Clopidogrel (Plavix) โดยดูจากการแปรผันของยีน CYP2C19

  3. โรคจิตเวช: การเลือกยาและขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าหรือโรคจิตเภท เช่น SSRIs โดยพิจารณาจากยีน CYP2D6

  4. HIV/AIDS: การตรวจหายีน HLA-B*57:01 ก่อนการใช้ Abacavir เพื่อลดความเสี่ยงจากอาการแพ้ยา


ความท้าทายของ Pharmacogenomics

  1. ความซับซ้อนของพันธุกรรม:
    การตอบสนองต่อยาไม่ได้ขึ้นอยู่กับยีนเพียงตัวเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่น เช่น สิ่งแวดล้อมและสุขภาพโดยรวม

  2. การเข้าถึงเทคโนโลยี:
    การตรวจทางพันธุกรรมยังมีต้นทุนที่สูงในบางประเทศ และยังไม่ได้รับการเข้าถึงอย่างแพร่หลาย

  3. จริยธรรมและความเป็นส่วนตัว:
    ข้อมูลพันธุกรรมถือเป็นข้อมูลที่อ่อนไหว การจัดเก็บและใช้งานต้องคำนึงถึงจริยธรรมและความปลอดภัย

  4. การขาดความรู้ในบุคลากรทางการแพทย์:
    บุคลากรทางการแพทย์บางส่วนยังขาดความเข้าใจในการแปลผลข้อมูลพันธุกรรมและการนำไปใช้ในทางคลินิก


อนาคตของ Pharmacogenomics

Pharmacogenomics จะมีบทบาทสำคัญในยุคของ การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) โดยคาดว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาการทดสอบทางพันธุกรรมที่รวดเร็วและประหยัดยิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างฐานข้อมูลพันธุกรรมที่ครอบคลุมกลุ่มประชากรหลากหลายเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สรุป

Pharmacogenomics เป็นก้าวสำคัญในวงการแพทย์ที่ช่วยปรับปรุงการรักษาให้เหมาะสมกับพันธุกรรมของผู้ป่วยแต่ละราย นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพของยาแล้วยังช่วยลดผลข้างเคียงและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าจะยังมีความท้าทายบางประการ แต่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการวิจัยในอนาคตจะช่วยให้ Pharmacogenomics กลายเป็นส่วนสำคัญของการรักษาทางการแพทย์ในยุคต่อไป

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลอดใส่เลือดมี่กี่ชนิด (tube เลือดมี่กี่ชนิด)

        หลาย ๆ ท่านอาจสงสัยนะครับว่าเวลามีนัดต้องไปพบแพทย์ และเมื่อถึงเวลาเจาะเลือด ทำไมถึงต้องเก็บเลือดเราไปทีละหลาย ๆ หลอดและในการนัดแต่ละครั้งก็มีการเจาะเลือดไปไม่เหมือนเดิมกับครั้งก่อน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันครับว่าหลอดใส่เลือดแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร         ปัจจุบันในทางการแพทย์หลอดสำหรับเก็บตัวอย่างเลือดนั้นถูกพัฒนามาหลายรูปแบบด้วยกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพสำหรับตรวจทางห้องปฏิบัติการรวมถึงระยะในการเก็บรักษาตัวอย่างเลือดให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์ของการตรวจทางห้องปฏิบัติการครับ สำหรับในวันนี้จะพามาทำความรู้จักกับหลอดเลือดพื้นฐานที่ใช้ในการตรวจประจำของโรงพยาบาลโดยทั่วไปครับ  สิ่งที่อยู่ในหลอดเลือดแต่ละสี        สิ่งที่อยู่ข้างในหลอดเลือดสีต่าง ๆ คือ สารเคมีที่ป้องกันการแข็งตัวของเลือด (สารกันเลือดแข็ง) โดยในหลอดแต่ละสีก็จะมีสารกันเลือดแข็งคนละชนิดกันครับ ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้สารกันเลือดแข็งหลายชนิด ไม่สามารถใช้ชนิดเดียว หรือหลอดเดียวสำหรับารตรวจได้ทั้งหมดก็เพราะว่าส...

DNA ตอนที่ 1 : DNA คืออะไร และโครงสร้างของ DNA

สารพันธุกรรม (genetic materials) ห มายถึงสารที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งสิ่งมีชีวิตระดับโปรคาริโอต (prokaryote) และยูคาริโอต (eukaryote) โดยสารพันธุกรรมประกอบด้วย ดีเอ็นเอ (deoxyribonucleic acid หรือ DNA) และอาร์เอ็นเอ (ribonucleic acid หรือ RNA) การเก็บรักษาข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเกิดจากการเรียงลำดับของหน่อยย่อยที่สุดของ DNA และ RNA อย่างเป็นระเบียบและมีความหมาย ซึ่งหน่อยย่อยของดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอเราเรียกว่า นิวคลีโอไทด์ (nucleotide) สิ่งมีชีวิตจะทำการแปลรหัสข้อมูลนิวคลีโอไทด์เหล่านี้ออกมาเป็นโปรตีนเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ ของเซลล์หรือร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่อไปผ่านการทำงานร่วมกันตั้งแต่ DNA RNA ไปจนถึงขั้นตอนการสั่งเคราะห์โปรตีน อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตบางประเภทจะเก็บข้อมูลพื้นฐานของตัวเองในรูปแบบของ RNA เท่านั้น เช่นไวรัสในกลุ่มรีโทรไวรัส หรือที่เรารู้จักกันดีก็คือไวรัสโควิด ภาพที่ 1 แสดงโครงสร้างจำลองของ DNA ที่มาภาพ : http://becuo.com/red-dna-wallpaper   DNA (deoxyribonucleic acid )                  D...

โครงสร้างโปรตีน (Protein structure)

โครงสร้างโปรตีน (Protein structure)             โปรตีนคือสารชีวโมเลกุลขนาดใหญ่และมีโครงสร้างซับซ้อนเกิดจากหน่วยย่อยกรดอะมิโน (amino acid) จำนวนมากตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันหน่วยมาต่อกันเกิดเป็นสายยาว (long chains) เรียกว่า polypeptide ซึ่งในสายหรือระหว่างสายของ polypeptide เองก็จะเกิดพันธะทางเคมีขึ้นได้ทำให้โปรตีนมีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไปและทำให้โปรตีนเองมีคุณสมบัติที่หลากหลายและโครงสร้างซับซ้อน             กรดอะมิโนเป็นหน่วยย่อย (monomer) ของโปรตีนซึ่งประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 20 ชนิด โครงสร้างของกรดอะมิโนประกอบด้วย หมู่อะมิโน (NH 3 ) หมู่คาร์บอกซิล (COO - ) และหมู่ R หรือ side chain ที่จับอยู่กับ alpha carbon โดยกรดอะมิโนแต่ละชนิดจะมีโครงสร้างเหมือนกันจะแตกต่างกันเพียงแค่หมู่ R เท่านั้น กรดอะมิโนแต่ละตัวจะมีเชื่อมต่อกันโดยพันธะเพปไทด์ (peptide bond) ระหว่างหมู่คาร์บอกซิลและหมู่อะมิโน ดังนั้นสิ่งที่กำหนดคุณสมบัติของโปรตีน หน้าที่ของโปรตีน และโครงสร้างของโปรตีนก็คื...